ข่าวผกก.ทุ่งใหญ่โอดถูกตำหนิ ไม่ให้ความเป็นธรรม'ลูกน้อง' - kachon.com

ผกก.ทุ่งใหญ่โอดถูกตำหนิ ไม่ให้ความเป็นธรรม'ลูกน้อง'
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ บริเวณจุดตรวจยูเทิรน์ภูตะวัน หมู่ 2 เขตเทศบาล ต.ท่ายาง จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่ตำรวจจะขอตรวจใบขับขี่ผู้รถเก๋งคันสีขาวรายหนึ่ง โดยพบว่าผู้ขับขี่ไม่ยอมแสดงใบขับขี่ให้เจ้าหน้าที่ดู และอ้างตัวว่าเป็นข้าราชการระดับสูง แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะแจ้งว่า จะเพียงขอดูใบอนุญาตขับขี่เท่านั้น แต่ชายคนดังกล่าว ได้ตอบกลับตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ อ้างว่า "เป็นอธิบดีศาลอาญาทุจริตภาค 8 และเป็นเพื่อนกับผู้กำกับ สภ.ทุ่งใหญ่ คนปัจจุบัน" และหลังจากนั้นยังเกิดการแชร์ข้อมูลในโซเชียลมีเดียด้วยว่า ตำรวจชั้นผู้น้อยที่ขอทำการตรวจใบขับขี่ได้ถูกคำสั่งย้าย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในคืนวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา คลิปดังกล่าวได้ถ่ายเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ซึ่งเมื่อทราบว่าผู้ชายคนดังกล่าวเป็นอธิบดีศาลอาญาทุจริต ภาค 8 จริง ตนจึงได้นำ ส.ต.ท.ธีระพงษ์ เพชรจันทร์ทอง และ ส.ต.ต.เอกพล จุ้นสวนแก้ว สองตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ในคืนนั้นไปพบท่านอธิบดีฯ เพื่อขอคำแนะนำในข้อกฎหมาย และขอโทษอธิบดีศาลอาญาทุจริตภาค 8 ที่ศาลแขวงนครศรีธรรมราช ซึ่งท่านไม่ได้ตำหนิอะไร และไม่ติดใจใด ๆ ยังแนะนำข้อกฎหมาย และการปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีวิจารณญาณและใช้ความสุภาพให้มากกว่านี้  ซึ่งตนมองว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีใครผิด ส่วนท่านอธิบดีฯ นั้นท่านมีบ้านอยู่ไม่ไกลจากจุดตรวจ และท่านขับรถออกมารับประทานอาหาร และจะขับรถกลับเข้าบ้าน ในขณะที่ตำรวจจราจรขอดูใบขับขี่ผู้หญิงที่นั่งมาด้วยก็พยายามจะค้นหาใบขับขี่ในกระเป๋าถือ แต่ยังหาไม่พบประกอบกับมีรถติดเยอะ จึงขอขับชิดซ้ายเพื่อไม่ให้รถติด จนเมื่อ ร.ต.อ.ไพศาล ใจห้าว เดินมาที่รถทางท่านอธิบดีก็กล่าวแสดงตนว่าเป็นอธิบดีศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบภาค 8 และเป็นเพื่อนกับตน ร.ต.อ.ไพศาล จึงอนุญาตให้ขับรถไปได้

"ตำรวจที่ถ่ายคลิปได้นำไปโพสต์ในกลุ่มไลน์ตำรวจด้วยกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบอกกล่าวต่อ ๆกันว่าบุคคลท่านนี้ท่านเป็นอธิบดีศาลทุจริตและประพฤติมิชอบจริง ๆเพื่อให้ตำรวจนายอื่น ๆ ได้รับทราบกันเอาไว้ เรื่องมันก็จบไปแล้วจบไม่มีใครติดใจอะไรทั้งสิ้น ตำรวจจราจรทั้งสองนายเป็นตำรวจใหม่ แม้จะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังขาดประสบการณ์ และวิจารณญาณที่ดี คำพูดก็ค่อยข้างแข็งกระด้างไปหน่อย จึงย้ายให้มาเป็นตำรวจติดตามผมเพื่อที่จะแนะนำและฝึกฝนประสบการณ์อย่างใกล้ชิด ก่อนจะย้ายกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตำรวจจรจรเหมือนเดิม  แต่ปรากฏว่าโลกโซเชียลกลับตำหนิผมต่างๆนานา ว่า ผมไม่มีความเป็นธรรม รังแกผู้ใต้บังคับบัญชาชั้นผู้น้อย ทั้ง ๆที่ผมไม่ได้คิดเช่นนั้น แต่คิดว่าการมาทำงานใกล้ชิดกับผม ตำรวจใหม่จะได้พบผู้คนมากมายหลายระดับ หลายสาขาอาชีพ ซึ่งจะได้มีประสบการณ์ในการนำไปพัฒนาปรับปรุงการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป"  พ.ต.อ.โชคดี กล่าว