ตายายหลั่งน้ำตาจำใจจับล่ามโซ่ หลาน13ใจแตกหนีเที่ยว
ข่าวประจำวัน

เมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุพบว่าเป็นปูนชั้นเดียวพบกับ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี และนางบี (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ซึ่งมีท่าที และสีหน้าไม่ค่อยดีรับว่าเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจดูภายในบ้านพบ ด.ญ.นุ่น อายุ 13 ปี อยู่ในสภาพที่สุดหดหู่กับผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากถูกจับล่ามโซ่เอาไว้ที่คอ พร้อมกับล็อกกุญแจเอาไว้อย่างหนาแน่น ล่ามโซ่ติดไว้กับเตียงนอน จึงให้การช่วยเหลือ ก่อนสอบถามเด็กหญิงวัย 13 ปี เล่าให้ฟังว่า ผู้ที่ลงมือทำแบบนี้กับคือ นายเอ และนางบี ซึ่งเป็นตา และยายที่อยู่อาศัยบ้านเดียวกัน

ด้านนายเอ และนางบี ซึ่งเป็นตายาย ร้องไห้กล่าวอ้างว่า ไม่ได้ทำทารุณหลานสาว แต่หาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ เนื่องจากต้องทำมาหากิน ทำงาน หาเงิน และต้องเลี้ยงดูหลานๆ อีก 4 คน โดยทาง น.ส.แซน (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ลูกสาว ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมดังแห่งหนึ่งที่เกาะพีพีดอน จังหวัดกระบี่ ได้นำ ด.ญ.นุ่น พร้อมด้วยน้องสาวอีกคน มาให้เลี้ยงตั้งแต่แรกเกิด พร้อมส่งเสียเงินค่าเลี้ยงดูให้เป็นประจำ แต่แทบไม่มีเวลากลับมาหาลูกๆ ที่บ้าน จนกระทั่ง ด.ญ.นุ่น หลานสาวเริ่มโต และติดเพื่อน จึงได้หนีเที่ยวกลางคืน และหนีออกจากบ้านไปหลายครั้งแล้ว ห้ามก็ไม่เชื่อ จึงล่ามโซ่หลานสาวไว้เมื่อเช้าของวันนี้ ก่อนออกไปทำงาน อย่างไรก็ตาม หลานสาวยืนยันว่า ไม่ขอเอาผิดกับตายาย และยืนยันว่าจะขออยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวต่อไป เพราะโรงเรียนใกล้จะเปิดเทอมแล้ว
ขณะที่ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ สิริทรัพย์ทวี สว.(สอบสวน) สภ.สองพี่น้อง กล่าวว่า เป็นเรื่องความรุนแรงในครอบครัว จึงได้ตักเตือน พร้อมสั่งกำชับห้ามไม่ให้มีการล่ามโซ่กับหลานสาวอีกต่อไป.