ระดม300คนช่วยชีวิต'พ่อแม่ลูก' ตึกถล่มทับดับ1รอด2
ข่าวประจำวัน
ตรวจสอบพบว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้อาศัยในอาคารดังกล่าว 5 คน โดยมีผู้รอดชีวิตออกมาจากซากอาคาร 2 ราย ทราบชื่อ น.ส.ธันย์นิชา ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 29 ปีลูกสาวคนที่ 2 ของบ้านและ ด.ญ.ริญญรัตน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 14 ปีลูกสาวคนเล็ก โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบถามทั้งคู่ ทราบว่ายังมีผู้ติดอยู่ในซากอีก 3 รายเป็นบิดา มารดา และพี่สาวคนโต ประกอบด้วย นายชัยโรจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ หรือ ช่างเก๋ อายุ 54 ปี เจ้าของบ้านผู้เป็นบิดา นางสิริกาญจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 52 ปี มารดาซึ่งมีอาชีพแม่ค้าขายผลไม้ตามตลาดนัดและ น.ส.ธันยากานต์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 31 ปีพี่สาวคนโต
ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังระดมค้นหาทั้ง 3 ชีวิต ได้มีเสียงโทรศัพท์มือถือจากนางสิริกาญจน์ ได้โทรฯเข้าหา น.ส.ธันย์นิชา ลูกสาวที่รอดชีวิตออกมาก่อน ว่าตัวเองติดอยู่บริเวณที่มีถังน้ำแข็งสีน้ำเงินขนาดใหญ่จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อทำการช่วยเหลือ โดยมีการระดมใช้เครื่องมือเจาะปูน และเครื่องตัดถ่างตัดเศษเหล็กเส้น เพื่อเปิดทางและนำนางสิริกาญจน์ออกมาได้อย่างปลอดภัย ต่อมาเมื่อเวลา 22.25 น.เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากใต้ซากอาคาร ซึ่งบริเวณดังกล่าวห่างจากจุดที่พบตัวนางสิริกาญจน์ ไม่มากนัก และทราบว่าจุดดังกล่าวมีทั้งนายชัยโรจน์ และน.ส.ธันยากานต์ลูกสาว เจ้าหน้าที่จึงเร่งเข้าช่วยเหลือ โดยใช้เครื่องเจาะ ตัดถ่าง และแบกโฮ ทำการตัดแผ่นปูนขนาดใหญ่ที่ปิดทับห้องด้านล่าง จนสามารถช่วยน.ส.ธันยากานต์ ลูกสาวออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่นายชัยโรจน์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบสวน น.ส.ธันย์นิชา ซึ่งรอดชีวิตออกมารายแรกทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนเองพร้อมคนในครอบครัวทั้งหมดรวม 5 คนได้นั่งรับประทานอาหารที่ภายในบริเวณบ้าน ได้ยินเสียงคล้ายมีสิ่งของล้มดังโครมที่ด้านหลังบ้านทั้งหมดจึงลุกขึ้นไปดู ต่อมาไม่มีใครคาดคิดว่าบ้านทั้งหลังจะถล่มพังครืนอย่างรวดเร็วตนและน้องสาวคนเล็กวิ่งหนีตายมาได้ โดยโดนแค่กระเบื้องหลังคาพังทับก่อนจะมีคนมาช่วยนำร่างออกมาได้ ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ส่วนบิดา มารดาและพี่สาว หนีตายออกมาไม่ทันติดอยู่ใต้ซากอาคารดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าเกิดจากอาคารดังกล่าวมีอายุเก่าแก่ 14 ปี อีกทั้งรอบๆข้างบ้านมีการถมดีสูงกว่าตัวบ้าน จึงคาดว่าอาจเกิดจากการเซาะของน้ำฝนที่ตกลงมา จนเป็นทางน้ำลงในตัวบ้านหลังดังกล่าว ประกอบกับทางด้านหลังบ้านเป็นบ่อน้ำพื้นดินของบ้านอาจเกิดความชุ่มน้ำ จนเกิดการทรุดตัวจนทำให้เสาบ้าน และคานที่เป็นปูนของด้านหลังบ้านเกิดรับน้ำหนักไว้ไม่ไหวเกิดพังครืนลงมา โดยค่อยๆพังถล่มจากด้านหลังของบ้าน ก่อนเสาและคานปูนทั้งหลังพังตามลงมาทั้งแถบดังกล่าว.