ข่าวยายอุ้มหลานหนีตายรถไฟขยี้ เครื่องกั้นทางแยกกักคาราง - kachon.com

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. พ.ต.ท.สมมาตร สังข์ทอง สว.สอบสวน สภ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถกระบะบริเวณทางข้ามรถไฟช่วงจุดตัดศาลาหมอพรหม หมู่ 1 บ้านนาหูกวาง ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานทับสะแก ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหลัก กม.ที่ 343+189 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กค 7812 ประจวบคีรีขันธ์ ถูกชนตกอยู่ข้างทางรถไฟ สภาพกระบะท้ายด้านขวาถูกชนพังยับเยิน เบื้องต้นทราบว่าถูกรถไฟขบวนสปริ้นเตอร์ 40 สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพฯ ซึ่งวิ่งจากสุราษฎร์ธานี ขึ้น กทม.ชนเข้าที่บริเวณจุดตัดดังกล่าว ก่อนรถไฟขบวนดังกล่าวไปหยุดห่างจากจุดนี้ไปราว 500 เมตร

นางพรทิพย์ มาลัยเกตุ อายุ 58 ปี คนขับรถกระบะ เปิดเผยว่า ตนเองกำลังขับกระบะเดินทางกลับบ้านพักพร้อมกับหลานชายวัย 10 ขวบ เมื่อมาถึงจุดตัดที่มีเครื่องกั้นข้ามทางรถไฟแบบอัตโนมัติ ตนเองไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนว่าจะมีรถไฟกำลังจะมา ประกอบกับขณะนั้นเครื่องกั้นทางรถไฟก็ยังไม่ทำงานลงมากั้นทางแต่อย่างใด จึงขับข้ามทางรถไฟไปแต่จังหวะนั้นปรากฏว่ากลับมีเครื่องกั้นลงมาปิดหัวปิดท้ายรถพอดีทำให้รถของตนเองไม่สามารถขับต่อไปได้ จอดคร่อมอยู่บนรางรถไฟ ตนตกใจมากและมองเห็นว่ารถไฟขบวนดังกล่าวกำลังมาถึงจึงรีบลงจากรถพร้อมเปิดประตูอีกฝั่งอุ้มหลานชายวิ่งหนีตายออกจากรถรอดเครื่องกั้นอย่างไม่คิดชีวิต จังหวะเดียวกันก็เห็นกับตาว่ารถไฟขบวนดังกล่าวพุ่งเข้าชนรถกระบะของตนอย่างแรงจนรถกระเด็นตกข้างทางพังยับเยิน


จากการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวทราบว่า เครื่องกั้นทางรถไฟที่จุดตัดดังกล่าวเกิดปัญหาขัดข้องบ่อยครั้ง ทั้งในเรื่องไม่มีเสียงสัญญาณเตือนเมื่อเครื่องกั้นกำลังทำงานลง บางครั้งเครื่องกั้นก็ทำงานลงเอง ทั้งๆ ที่ไม่มีขบวนรถไฟผ่านมาแต่อย่างใด ทั้งนี้เครื่องกั้นบริเวณนี้ทำงานแบบอัตโนมัติ โดยจะทำงานก็ต่อเมื่อขบวนรถไฟกำลังจะวิ่งผ่านบริเวณจุดดังกล่าวตามระยะที่กำหนด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง