องคมนตรีติดตามโครงการด้านพัฒนาแหล่งน้ำ จ.สระบุรี
ข่าวประจำวัน
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคกลาง และ พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี พร้อมคณะอนุ กรรมการฯ ได้เดินทางไปติดตามการดำเนินงาน การบริหารจัดการน้ำของโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหินขาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลเขาดินพัฒนา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี หัวหน้าส่วนราชการฯ ให้การต้อนรับพร้อมกับพบปะเยี่ยมราษฎร กลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำ เพื่อสนองพระราโชบายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร ตลอดจนการดำเนินงานโครงการในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งให้กับราษฎร
โดย องคมนตรี และคณะฯ เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหินขาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน เยี่ยมชมสภาพพื้นที่ และพบปะเยี่ยมกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำในโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหินขาวฯ เป็นโครงการซึ่งเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของราษฎร โดยทรงวางโครงการในแผนที่และพระราชทานให้แก่เจ้าหน้าที่นำไปประกอบการพิจารณาวางโครงการ เพื่อช่วยเหลือราษฎรและพื้นที่เพาะปลูกตอนล่างในเขตตำบลห้วยบง และตำบลเขาดินพัฒนา ให้มีน้ำใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค และเพื่อการเกษตร
ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำห้วยหินขาวฯ มีขนาดความจุที่ระดับเก็บกัก 1,000,000 ลบ.ม. และทำหน้าที่กักเก็บน้ำฝน เฉลี่ยการแจกจ่ายน้ำในลักษณะอ่างใหญ่เติมอ่างเล็ก อ่างเล็กเติมสระน้ำ ด้วยการใช้ระบบท่อส่งน้ำจำนวน 2 สาย คือท่อส่งน้ำฝั่งขวา และฝั่งซ้าย เพื่อส่งน้ำลงสระเก็บน้ำในพื้นที่ของเกษตรกรด้านท้ายอ่าง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในโครงการขยายผลทฤษฎีใหม่พระราชทานและ เป็นการช่วยเพิ่มผลิตผลทางการเกษตรและเพิ่มรายได้ให้แก่ราษฎร อีกทั้งยังได้ประโยชน์ทางด้านการประมง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทำให้ประชาชนได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถพัฒนาการบริหารจัดการน้ำให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอและยั่งยืนตลอดไป
จากนั้นองคมนตรี และคณะได้เดินทางไปยังศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่ หมู่ที่ 4 บ้านตั้งใหม่มงคล ตำบลเขาดินพัฒนา ซึ่งมี นางสาวพิมธิดาภา ปัญญาหนู เป็นเจ้าของสวน “สวนผักวัยรุ่น” ได้ใช้ชีวิตภายใต้คติเตือนใจที่ว่า “พอจึงสุข สุขจึงพอ” ที่ยึดหลักและการเรียนรู้การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาจัดการในพื้นที่กว่า 13 ไร่
ด้าน น.ส.พิมธิดาภา เล่าว่า เริ่มจากการขุดสระกักเก็บน้ำ ทำไร่ข้าวโพด ควบคู่กับการปลูกพืชผักสวนครัวกว่า 20 ชนิด ตั้งแต่ พริก กระเพรา ตะไคร้ มะเขือ มะละกอ ถั่วฝักยาว ไปจนถึงการเพาะเห็ดนางฟ้า ซึ่งลงมือเพาะปลูก บำรุง และดูแลรักษาด้วยตนเอง ตลอดปีจะมีผลผลิตให้เก็บเกี่ยวเพื่อการบริโภคในครอบครัว และเหลือขายในชุมชนมีรายได้ 300-500 บาทต่อวัน จากการขายพืชผักปลอดสารพิษ รายได้อาจจะดูไม่มาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ลำบาก และยังเหลือเก็บออมไม่มีหนี้สิน.