ข่าวชีวิตรันทดอดีตทหารเกณฑ์ เมียทิ้ง-พ่อแม่ตาย-ญาติยึดที่ - kachon.com

ชีวิตรันทดอดีตทหารเกณฑ์ เมียทิ้ง-พ่อแม่ตาย-ญาติยึดที่
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s

จากกรณี พ.อ.ปริชญ์ สุคันธศรี รอง ผอ.กอ.รมน.จว.หนองบัวลำภู ขับรถยนต์ปิคอัพจากจังหวัดนครราชสีมา เตรียมจะเดินทางไปที่ทำงานจังหวัดหนองบัวลำภู พบชายคนหนึ่งก้มหน้าก้มตาเดินฝ่าเปลวแดดที่บริเวณ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ด้วยความสงสัยจึงชั่งใจอยู่นานว่า ชายคนดังกล่าวดีหรือร้าย ก่อนจะหยุดรถให้ชายคนนั้นขึ้นมานั่งที่กระบะท้าย และได้สอบถามจนทราบชื่อว่า นายศักดิ์นรินทร์ จูมจันทา หรือโด่ง อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 196 หมู่ 11 บ้านแพงใต้ ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เป็นอดีตทหารเกณฑ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มาทำงานเป็นคนงานติดตั้งเสาโทรศัพท์มือถือที่ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา กับนายจ้างที่เป็นคนจังหวัดเดียวกัน แต่ทำงานได้เพียง 2 วัน งานก็ไม่มี จึงขอกลับบ้าน แต่นายจ้างไม่มีเงินจ่ายค่าจ้าง ให้ติดกระเป๋ามาเพียง 200 บาท ก่อนจะมาส่งที่ท่ารถ อ.ชุมพวง นั่งมาลง บขส.นครราชสีมา(โคราช) เหลือเงินติดตัวเพียง 110 บาท ไม่พอค่าโดยสารตีตั๋วกลับ จึงตัดสินใจเดินเท้า จนมาพบ พ.อ.ปริชญ์ ดังกล่าว นอกจากนี้ รอง ผอ.กอ.รมน.จว.หนองบัวลำภู ยังทดสอบความซื่อสัตย์ของนายโด่ง ด้วยการให้เงินแบงค์พันไปซื้อของกิน นายโด่งซื้อเพียงกาแฟมา 1 กระป๋อง พร้อมยื่นเงินทอนให้ทั้งหมด จากนั้นก็ขับรถมาส่งที่ บขส.ขอนแก่น มอบเงินให้ 1,000 บาท เพื่อเป็นค่ารถกลับจังหวัดนครพนม และนำเรื่องราวมาโพสต์ลงโซเซียล จนชาวเน็ตต่างชื่นชมในความมีน้ำใจของ พ.อ.ปริชญ์ นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวพร้อมด้วย นางเกษแก้ว สุวรรณมาโจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 และนายจรัส ไชยมนตรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านแพงใต้ ได้เดินทางไปพบนายศักดิ์นรินทร์ หรือโด่ง ที่กระต๊อบในผืนนาใกล้กับท่อส่งน้ำชลประทาน ซึ่งมีผู้ใจบุญได้ให้ปลูกพักอาศัย โดยมี นายอาคม ดงภูยาว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 11 บ้านแพงใต้ เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือตามอัตภาพ ซึ่งสภาพกระต๊อบเป็นสังกะสีเก่าแปะล้อม ภายในมีเพียงที่นอนเก่าๆ และกระทะไฟฟ้าเสมือนอุปกรณ์สารพัดประโยชน์เพียงชิ้นเดียว ที่เป็นทั้งหม้อหุงข้าวและปรุงอาหาร ไม่มีห้องน้ำ 


นายศักดิ์นรินทร์ เปิดเผยถึงชีวิตที่แสนหดหู่ ว่า พื้นเพเป็นคน อ.บ้านแพงโดยกำเนิด มีพี่น้องด้วยกัน 3 คน เสียชีวิตไปหนึ่ง เมื่อเติบใหญ่ก็ต่างแยกย้ายไปทางใครทางมัน และมีปัญหาเข้ามาภายหลังพ่อเสียชีวิต ตอนอายุ 10 ขวบ ญาติฝ่ายพ่อมาขอที่ดินคืน แม่จึงหอบลูกออกจากบ้านที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำของพ่อแม่ โดยมาเช่าบ้านอยู่ในเขตเทศบาลตำบลบ้านแพง ต่อมาแม่ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานกวาดขยะของเทศบาลฯ วันหนึ่งมีการแข่งขันกีฬาเทศบาลที่ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ทางเทศบาลตำบลบ้านแพงจึงจัดนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน เมื่อรถวิ่งมาถึงบ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มีคนปวดปัสสาวะจึงจอดข้างทาง แม่กระโดดลงจากรถวิ่งข้ามถนน โดยไม่ดูว่ามีรถวิ่งสวนมา จึงถูกชนเสียชีวิตคาที่ ขณะนั้นตนอายุได้ 16 ปี หลังจบงานศพแม่ ตนก็มาอาศัยอยู่กับนายอาคม เพื่อนรัก ด้วยการรับจ้างทำงานทั่วไป กระทั่งถึงวัยเกณฑ์ทหาร จับได้ใบแดง ทบ.1/2556 ประจำการที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม

นายศักดิ์นรินทร์ กล่าวต่อว่า หลังผ่านการฝึกเป็นเวลา 3 เดือน ก็ถูกส่งไปอยู่กองร้อยสนับสนุนช่วยรบ(สชก.) อ.โคกโพธิ์ จ.ยะลา เป็นเวลา 1 ปี 9 เดือน เมื่อปลดประจำการก็กลับบ้านมาพบรักกับแม่หม้ายลูกติดคนหนึ่งชาว จ.นครพนม ตนจึงไปอาศัยอยู่บ้านพ่อตาแม่ยาย และได้ไปทำงานก่อสร้างที่ กทม. 3 เดือน ได้เงินค่าจ้างมา โดยตั้งใจจะมาเซอร์ไพร้ส์เมีย จึงเดินทางมาโดยไม่บอกให้เมียรู้ แต่สิ่งที่พบคือ เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปเห็นเมียพาชายชู้มานอนกกอยู่ในห้อง จึงเลิกรากันตั้งแต่บัดนั้น ต่อมา มีนายจ้างรับเหมาช่วงมาชวนไปทำงานติดตั้งเสาโทรศัพท์มือถือที่ อ.ชุมพวง ค่าแรงวันละ 350 บาท แต่ทำได้เพียง 2 วันก็ไม่มีงานให้ทำต่อ ตนจึงขอเงินค่าจ้างกลับบ้าน แต่นายจ้างไม่มีเงินจ่ายเพราะยังไม่ได้เบิก จึงให้เงินค่ารถมาแค่ 200 บาท ไม่พอค่าตั๋วรถโดยสาร ตนจึงตัดสินใจเดินเท้ากลับนครพนมและได้รับการช่วยเหลือจาก พ.อ.ปริชญ์ ดังกล่าว


ด้านนางเกษแก้ว กล่าวว่า หลังเกิดข่าวทางสื่อโซเซียล มีแต่ทางจังหวัดนครพนมเท่านั้น ที่ติดต่อประสานมา ส่วนหน่วยงานอื่นยังไม่มีการติดต่อแต่อย่างใด ขณะที่ทางเทศบาลตำบลบ้านแพง จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบความเป็นอยู่ ซึ่งนายโด่งเป็นคนนิสัยดี ไม่มีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ชีวิตที่ผ่านมาน่าสงสาร

ขณะที่ นายอาคม เพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก เล่าว่า เป็นเพื่อนกับนายโด่ง มาตั้งแต่เล็กจนโต ก่อนหน้า 7 วัน แม่นายโด่ง ได้สั่งเสียก่อนถูกรถชนเสียชีวตไว้ว่า เป็นเพื่อนกันอย่างทิ้งกัน ตนจึงเป็นเหมือนเพื่อนตายกับนายโด่ง และจะดูแลช่วยเหลือเพื่อนเท่าที่พอทำได้ต่อไป.