ข่าวจับรองฯโจ้-สารวัตรเสือ อ้างเป็นชุดฉก.ไถเงินสถานบันเทิง - kachon.com

จับรองฯโจ้-สารวัตรเสือ อ้างเป็นชุดฉก.ไถเงินสถานบันเทิง
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป.นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.สุภารัตน์ แย้มเนตร์ อายุ 39 ปี และ น.ส.ปฏิญญา รุ่งรัศมี อายุ 29 ปี ชาว จ.ชัยนาท ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 329 และ 331/2562 ลงวันที่ 18 เมษายน 2562 ตามลำดับ ข้อหาร่วมกันกรรโชก จับกุม น.ส.สุภารัตน์ได้ที่หน้า สน.สุทธิสาร ส่วน น.ส.ปฏิญญา จับกุมได้ที่ตลาดบัวหลวงธานี ต.ลาดบัวหลวง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ยังจับกุมตัวนายอดิศักดิ์ เริงทรัพย์ อายุ 27 ปี ชาว จ.นนทบุรี แฟนหนุ่มของ น.ส.ปฏิญญา ในความผิดฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์


ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา นายภูมิเขต เตชวีระพงศ์ อายุ 39 ปี และนายสุเทพ รุ่งเรือง อายุ 46 ปี  เจ้าของสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.ว่าถูกคนร้ายแอบอ้างตัวเป็นตำรวจชุดเฉพาะกิจหน่วยต่าง ๆ โดยใช้ชื่อว่า “สารวัตรโจ้” ,“รองฯ โจ้” และ“สารวัตรเสือ” โทรศัพท์มาพูดคุย รวมทั้งใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ในการติดต่อ เรียกเงินเป็นจำนวน 120,000 บาท แลกกับการดูแลให้การจัดงานเทศกาลสงกรานต์เป็นไปอย่างราบรื่น โดยพูดจาในลักษณะข่มขู่ว่าหากไม่ยินยอมจ่ายเงินให้ก็จะเรียกตำรวจไปจับกุม จึงเกิดความหวาดกลัวยอมจ่ายเงินไปให้ โดยนายภูมิเขตโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร 3 ครั้ง เป็นเงิน 75,000 บาท ส่วนนายสุเทพ โอนเงินไปให้ 2 ครั้ง เป็นเงิน 45,000 บาท แต่หลังจากโอนเงินไปให้แล้วกลับไม่สามารถติดต่อกับกลุ่มคนดังกล่าวได้อีกจึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกลวง จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ กระทั่งมีการออกหมายจับก่อนจะนำกำลังไปทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว


จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ทางชุดจับกุมจึงคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ รับไว้ดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ดีตามแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่า ยังมีผู้ร่วมกระทำความผิดอีกราย ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้รับการโอนเงิน คือ น.ส.ชลธิชา จันทร์สี่ทิศ อายุ 23 ปี ชาว จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 330/2562 ลงวันที่ 18 เมษายน 2562 ข้อหาร่วมกันกรรโชก แต่ยังอยู่ระหว่างหลบหนีคดี ซึ่งขณะนี้ได้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว.