ข่าว'น้องเอิร์ท'เล่านาทีชีวิต หลังหายตัว5วันไปโผล่ที่'หัวหิน' - kachon.com

'น้องเอิร์ท'เล่านาทีชีวิต หลังหายตัว5วันไปโผล่ที่'หัวหิน'
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
จากกรณีเพจดังได้เผยแพร่ภาพญาติตามหา "น้องเอิร์ท" หรือ นายนวพล มาตช่วง นักศึกษาปวช. อายุ 17 ปี หายตัวไปหลังเข้ามาฝึกงานในกทม. ตั้งเเต่วันที่ 12 เม.ย. ต่อมา มีคนเก็บโทรศัพท์ของ นายนวพล ได้แถวสุขุมวิท 71 ก่อนพากันเร่งติดตามตัว กระทั่งเมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ 17 เม.ย. ได้พบตัว นายนวพล ในสภาพผอมโซ ที่คอมีรอยแผลคล้ายถูกเชือกรัดกลับมาห้องพักเอง ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 166 หมู่ 3 บ้านเชียงยืน ต.เชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านแม่ของ น้องเอิร์ท โดยพบกับแม่และคุณครู ซึ่งทางบ้าน นายนวพล ได้มีการสอบถามสารทุกข์สุขดิบ พร้อมกับผูกข้อมือรับขวัญให้

ด้าน นายนวพล เล่าว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย. เวลา 05:00 น.ตนได้ออกจากห้องพักย่านดินแดง เพื่อไปฝึกงานยังร้านสะดวกซื้อแถวถนนพหลโยธินซอย 8 โดยใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ระหว่างนั่งรถอยู่นั้น จู่ๆก็เผลอหลับไป มารู้สึกตัวอีกครั้งน่าจะเป็นช่วงบ่ายของวันที่ 13 เม.ย. มองไปรอบทิศมีแต่ภูเขาและต้นไม้ ตอนนั้นตนรู้สึกมึนงงไม่รู้ว่ามาโผล่ตรงนี้ได้อย่างไร เมื่อรู้สึกตัว ก็พยายามหาทางเอาตัวรอดเพื่อออกจากภูเขา โดยเดินไปเรื่อยๆแบบไม่รู้ทิศทางค่ำไหนนอนที่นั่น กระทั่งเจอบ้านร้าง ตนเข้าไปหวังจะพักผ่อน แต่ก็มีคนพักอยู่ในนั้น จึงได้ขอความช่วยเหลือ แต่ชาวบ้านก็ไม่กล้าช่วย เนื่องจากสภาพตอนนั้นเหมือนคนขอทานเสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ย ไม่ได้สวมใส่รองเท้า เพราะรองเท้ากัดตนเลยถอดทิ้งไป รู้เพียงว่าที่ตนอยู่คือ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นได้เดินไปเรื่อยๆ หิวก็ปีนต้นมะพร้าวกินประทังชีวิต จนเดินพบร้านซ่อมจยย.จึงแวะถาม เจ้าของร้านใจดี ถามว่าตนมาจากไหนและกำลังจะไปไหน ก็เลยเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เจ้าของร้านจึงช่วยเหลือด้วยการให้เงินเพื่อไปขึ้นรถไฟกลับบ้าน พร้อมกับนำเสื้อผ้าให้ใส่ เมื่อถึงห้องเพื่อนก็ตกใจ เนื่องจากหายไปหลายวัน ตนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง


ด้าน น.ส.ชรินรัตน์ หีบแก้ว อายุ 42 ปี แม่ของนายนวพล กล่าวว่า ลูกชายเรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีสมเด็จพานิชยการ จ.กาฬสินธ์ ในช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาได้ไปฝึกงานที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งที่ กทม.อาศัยอยู่กับเพื่อนในห้องพัก 3 คนแต่ฝึกงานคนละที่ เมื่อได้ยินข่าวว่าลูกชายหายตัวไปตกใจมาก จึงคิดว่าน่าจะเป็นอันตรายเลยโทรไปปรึกษาครูเพื่อช่วยกันตามหา พร้อมกับแจ้งความไว้กับตำรวจ เพื่อช่วยติดตามอีกทางหนึ่ง กระทั่งน้องกลับมา ตนรู้สึกดีใจมากที่ลูกชายไม่เป็นอะไรมาก มีเพียงรอยช้ำเหมือนโดนเชือกรัดที่คอ และรอยแผลถลอกที่ด้านหลัง  ซึ่งหลังจากนี้จะให้ลูกชายกลับมาฝึกงานที่บ้าน  ไม่อยากให้เดินทางไปไหนอีกเกรงว่าจะเกิดอันตรายอีก