หยุดลือ-แชร์ข่าวมั่ว! "พายุสุริยะ"พุ่งชนโลกทำ"ร้อนตาย"
ข่าวประจำวัน
จากกรณีสังคมออนไลน์ เกิดกระแสแชร์ข้อความ "ด่วนที่สุด ……รายงานล่าสุดเมื่อ 19 เม.ย. 2562 ได้เกิดระเบิดที่ดวงอาทิตย์ กระแสคลื่นสุริยะจะพุ่งปะทะโลก ใน 48 ชม. งานนี้อาจมีร้อนตายทั้งในไทย และ ทั่วโลก ……ให้พกน้ำดื่มติดตัวไว้ ป้องกันหัวใจวายเพราะขาดน้ำเฉียบพลัน" โดยยังระบุว่า โลกจะถูกโจมตีด้วยอนุภาคพลังงานแสงอาทิตย์ ในไม่กี่วัน ซึ่งคาดว่าจะมีพายุสุริยะเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ นักวิจัยได้สังเกตเห็นจุดบอดบนดวงอาทิตย์ที่จะทิ้งระเบิดโลกด้วยอนุภาคพลังงานแสงอาทิตย์ในวันจันทร์ 22 เม.ย. นี้ จนกลายเป็นกระแสตื่นตระหนกไปทั่วสังคมออนไลน์อย่างล้นหลามนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์แสดงความเห็น ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ระบุ "พายุสุริยะ ไม่ได้ทำให้ร้อนตาย" นะครับ นี่ก็แชร์อะไรกันมั่วๆ อีกแล้ว มีการเอาลิงค์ยูทูปที่เตือนเรื่องการเกิด "พายุสุริยะ" เมื่อ 19 เม.ย. มาบอกว่า "จะเกิดระเบิดที่ดวงอาทิตย์ กระแสคลื่นสุริยะจะพุ่งปะทะโลก ใน 48 ชม. งานนี้อาจมีร้อนตายทั้งในไทย และ ทั่วโลก ให้พกน้ำดื่มติดตัวไว้ ป้องกันหัวใจวาย เพราะขาดน้ำเฉียบพลัน" ขอให้เตรียมตัวป้องกันกันด้วย" ... ไปกันใหญ่แล้วนะ กระแสลมสุริยะจากดวงอาทิตย์นี่ ไม่ใช่คลื่นความร้อนอะไรให้ต้องกลัวแบบนั้น
พายุสุริยะ หรือ Solar storm เป็นการที่ผิวดวงอาทิตย์ระเบิดขึ้นมาที่เรียกว่า "การระเบิดลุกจ้า" ซึ่งทำให้อนุภาคประจุไฟฟ้าพุ่งออกมาจำนวนมหาศาล ประจุไฟฟ้าที่พุ่งออกมานี้ จะรบกวนระบบการสื่อสารมีผลทำให้การสื่อสารระยะไกลเป็นอัมพาต ทำให้เครื่องบินไม่สามารถติดต่อกับหอบังคับการได้ โทรศัพท์มือถือใช้งานไม่ได้ รวมไปถึงดาวเทียมเสียหาย การทำนายความรุนแรงของพายุสุริยะสามารถทำได้โดยตรวจสอบจุดมืดดวงอาทิตย์ เนื่องจากจุดดำเกิดจากความแปรปรวนของสนามแม่เหล็ก เมื่อมีจุดมืดมากขึ้นก็จะส่งผลให้อนุภาคกระแสไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้เกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น "สรุปคือ มันเป็นกระแสของอนุภาคที่วิ่งจากดวงอาทิตย์ มากระทบโลก และก็เกิดขึ้นบ่อยๆ อยู่แล้ว มีผลกระทบโดยตรงแต่เฉพาะสิ่งที่อยู่นอกโลก ไม่ได้ทำให้โลกร้อนขึ้นจนคนตายอย่างที่ว่าครับ .. เลิกแชร์ได้แล้ว"
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา "องค์กาอวกาศนาซ่า" ได้ระบุว่า คณะกรรมการระหว่างประเทศ NOAA / NASA ประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 5 เม.ย. คาดการณ์เบื้องต้นจะเกิดปรากฎการณ์ของดวงอาทิตย์ Solar Cycle 25 หรือจุดบอด/จุดดับของดวงอาทิตย์ (Sunspot) ซึ่งหมายถึง พื้นที่ส่วนหนึ่งบนชั้นโฟโตสเฟียร์ของดวงอาทิตย์ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าบริเวณโดยรอบ และมีสนามแม่เหล็กที่มีปั่นป่วนสูงมาก ทำให้เกิดการขัดขวางกระบวนการพาความร้อนบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ เกิดเป็นพื้นที่ที่มีความเข้มของแสงต่ำกว่าบริเวณโดยรอบ ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่เร็วกว่าปีพ.ศ. 2566 และจะไม่ช้ากว่าปี 2569 อีกด้วย...
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Jessada Denduangboripant,@DAHBOO77,swpc