ข่าวสาวโอดถูกกระชากกระเป๋า คดีไม่คืบ-ตร.อ้างไม่ชำนาญพท.! - kachon.com

สาวโอดถูกกระชากกระเป๋า คดีไม่คืบ-ตร.อ้างไม่ชำนาญพท.!
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" รายงานว่า โลกออนไลน์เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ภายหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก@Pannita Suptanarat ระบุ "เขาบอกว่า ถ้าเรื่องนี้เป็นข่าว ทุกอย่างจะง่ายขึ้น....ได้ยินมานานแล้ว ว่าคดีเล็กๆ ไม่ได้เป็นข่าว แจ้งความไป ก็ยากที่จะมีความคืบหน้า แต่ทางเรายังเชื่อมั่น และรอ ตามที่ตำรวจท่านบอกให้เรารอ แต่วันนี้ได้รู้แล้วว่า สำหรับเรื่องนี้ เป็นอย่างนั้นจริงๆ" โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าเรื่องราวของพี่สาวถูกโจรกระชากกระเป๋า เมื่อไปสอบถามความคืบหน้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีก็อ้างว่าเพิ่งย้ายมา ไม่ชำนาญพื้นที่ อีกทั้งเมื่อไปขอดูกล้องวงจรปิดไฟล์ก็ถูกลบแล้ว จนทำให้เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลาม

โดยล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊ก@Pannita Suptanarat ได้เล่าเรื่องราวเพิ่มเติมกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างที่พี่สาวกำลังเดินข้ามสะพานผ่านพิภพลีลาเพื่อจะไปร่วมงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ที่ม.ธรรมศาตร์ ท่าพระจันทร์ แต่กลับถูกมอเตอร์ไซค์ขับขึ้นฟุตปาธมากระชากกระเป๋า พี่สาวก็พยายามยื้อยุดงถูกลากร่างไปกับถนนจนบาดเจ็บ มีแผลถลอกตามตัวหลายแห่ง เมื่อทนเจ็บไม่ไหวก็ต้องยอมปล่อยมือ โดยหลังจากไปทำแผลเรียบร้อยจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ชนะสงคราม


วันนั้นตำรวจได้พามาที่เกิดเหตุ พบว่ามีกล้องของกทม. มุมที่กล้องหัน ก็คือมุมที่เกิดเหตุ ซึ่งตำรวจบอกว่า ขอไปดูกล้องก่อนดำเนินคดี แล้วจะติดต่อกลับมา แต่ผ่านไป 3 วันก็ยังเงียบ วันที่ 3 เม.ย. ติดต่อกลับไปได้รับคำตอบว่ากำลังให้สายสืบตามอยู่ ระหว่างรอติดต่อกลับ ตนได้คุยกับเพื่อนจึงทราบว่าเมื่อเกิดเหตุแบบนี้ เราสามารถนำใบแจ้งความไปขอดูคลิปกับทางกทม.ได้เอง จนเมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา ก็ได้เดินทางไปขอดูกล้องแต่โชคร้าย เนื่องจากไฟล์สามารถอยู่ได้เพียง 4 วันเท่านั้น ไฟล์ที่ต้องการจึงถูกลบไปเสียแล้ว แต่ที่ตกใจกว่าคือยังไม่มีใครมาติดต่อขอดูกล้องเลย

"พอเห็นเป็นแบบนั้น เราก็ได้สอบถามเจ้าของคดี เขาก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าเพิ่งย้ายมาจากต่างจังหวัดไม่กี่วัน ยังไม่ชำนาญพื้นที่ตรงนี้ และต้องขอความร่วมมือจากเรา ให้ไปช่วยดูกล้องเอง โดยจะออกหนังสือให้ ซึ่งตอนนั้นมันไม่ทันแล้ว ไฟล์ก็ถูกลบไปแล้ว ทางเราก็เลยขอเบอร์ติดต่อสายสืบเพื่อมาติดต่อโดยตรง สายสืบกลับบอกว่า ไปดูมาแล้ว กล้องมองไม่เห็น กล้องมันหันไปทางอื่น แต่วันที่ทางเราไปติดต่อกทม. กลับพบว่ากล้องได้ติดอยู่ในจุดที่สามารถเห็นใบหน้าคนร้ายได้เลย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบอะไรจากคุณตำรวจ และไม่รู้จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้พี่ได้ยังไง เอาจริงๆถ้าวันนั้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีงานมากแล้วออกหนังสือให้ทางเราไปนำไฟล์จากกล้องมาให้ เราก็ยินดีนะคะ ตอนนี้คงได้ทราบตัวคนร้ายไปแล้วก็ได้" เจ้าของโพสต์กล่าว


เจ้าของเรื่องยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนสอนให้รู้เลยว่า ประชาชนธรรมดาอย่างเรา การหวังพึ่งคุณตำรวจคงเป็นอะไรที่ยากจริงๆ คดีที่เกิดอาจจะเล็กๆ สำหรับใครหลายคน แต่มันเป็นเรื่องใหญ่ของคนๆหนึ่งมาก ทรัพย์ที่เสียไป ไม่ว่าจะกระเป๋า กระเป๋าสตางค์ เงินรวมมูลค่า เกือบแสนบาท ซึ่งเป็นสิ่งของที่พี่สาวทำงานหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ไหนจะบาดเจ็บหลายจุด จนดูแลตัวเองแทบไม่ได้ ไปทำงานก็ไม่ได้ "ตอนนี้บอกตรงๆเลยว่าไม่ได้หวังจะได้ของคืน แต่แค่เจ้าหน้าที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาได้พยายามเป็นที่พึ่งของประชาชนแล้ว หรือบอกตั้งแต่แรกว่าให้ทางเราช่วยหาหลักฐานมาเพื่อความรวดเร็วก็ยังดี มิเช่นนั้นตอนนี้คงได้เห็นหน้าคนร้าย เพื่อที่จะได้เตือนคนอื่นๆต่อไป วันนี้พี่สาวแค่เจ็บตัว แต่เราก็ไม่รู้วันหน้าจะมีใครต้องสูญเสียอะไรอีกบ้าง"...



ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Pannita Suptanarat