ผู้ว่าฯเชียงใหม่โว"ยักษ์เขียว" ทำงานได้ดี"น่าน"ขึ้นที่1แล้ว
ข่าวประจำวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ 9 หมู่บ้าน ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา มีไฟป่าเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากถึง 128 จุด ทำให้ให้ปัญหาหมอกควันไฟในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียงทวีความรุนแรง ทางเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมไฟป่าและเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและของกองกำลังผาเมืองระดมบิน 76 เที่ยวบิน เพื่อดับไฟพื้นที่เป้าหมาย 9หมู่บ้าน ทำให้สถานการณ์ในอ.แม่สะเรีย งเริ่มคลี่คลาย จุดความร้อนลดลงเหลือเพียง 25 จุด
ขณะที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน บริเวณชายแดนไทย-ลาว ต้องเผชิญวิกฤตหมอกควันอย่างหนัก มีหมอกควันปกคลุมหนาแน่นทั่วท้องฟ้าจนไม่สามารถมองเห็นภูเขาสูง ค่าฝุ่นละอองพุ่งสูงอยู่ในเกณฑ์อันตราย ขึ้นเป็นอันดับ1 ในภาคเหนือ แซงจ.เชียงใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว ตรวจวัดค่าฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ตรวจพบ 134 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพขณะที่จุดความร้อน ในเขตป่าอนุรักษ์และป่าสงวน 8 จุด กระจายใน 4 อำเภอเฉลิมพระเกียรติ,ท่าวังผา,ปัว และที่ อ.นาหมื่น ไฟไหม้ป่าสงวนฯ-ป่าอุทยานขุนสถาน บริเวณสวนป่าห้วยเสียม และบริเวณป่าขุนเคิม ป่าในเขตป่าอุทยานขุนสถานฯ เนื่องจากสภาพพื้นที่ เป็นเขาสูงชัน และหน้าผา เป็นอุปสรรคในการดับไฟป่า จึงไม่สามารถดับไฟได้ ทำได้เพียงควบคุมไม่ให้ลุกลามพื้นที่ใกล้เคียง โดยเบื้องต้นพบป่าเสียหายกว่า 300ไร่ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนางเปีย เเช่เล้า ราษฎรหมู่บ้านดอยติ้ว ต.ศรีภูมิอ.ท่าวังผา ฝ่าฝืนทำการเผาพื้นที่การเกษตรในเขตป่า ดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้านนายวรกิตติ ศรีทิพากร ผวจ.น่าน ได้เร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ เร่งฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นช่วยปรับสภาพอากาศให้ดีขึ้น เพราะการเผาป่ามีเพียง 1 จุด ส่วนหมอกควัน มาจากประเทศเพื่อนบ้าน.