ข่าวผู้ว่าฯเชียงใหม่โว"ยักษ์เขียว" ทำงานได้ดี"น่าน"ขึ้นที่1แล้ว - kachon.com

ผู้ว่าฯเชียงใหม่โว"ยักษ์เขียว" ทำงานได้ดี"น่าน"ขึ้นที่1แล้ว
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผวจ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าพื้นที่เชียงใหม่ ที่ห้องโถงศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ภายในศูนย์ SME ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อ.เมืองเชียงใหม่ โดยนายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้มีจุดฮอตสปอร์ตทั้งหมด 46 จุด เกิดมากที่ ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เมื่อสอบถามนายอำเภอพร้าว เมื่อเช้านี้ก็ทราบว่า สาเหตุมาจากการเข้าไปหาผึ้งในป่า และเกิดในป่าลึก เพราะการหาผึ้งป่าต้องใช้ไฟ เพื่อรมควันเอารังผึ้ง จึงได้กำชับปัญหาเรื่องการดับไฟป่า แก้ไขจุดฮอตสปอร์ตอย่างเร่งด่วน  ต่อมาผวจ.เชียงใหม่ได้เดินทางไปที่ลานอเนกประสงค์ ข่วงประตูท่าแพทางภาคเอกชนจากจ.ขอนแก่น  ได้นำ”ยักษ์เขียว”เครื่องฟอกอากาศ ขนาดใหญ่  มาติดตั้งไปแล้วพบว่าทำงานได้ดีทำให้ค่าฝุ่นบริเวณโดยรอบดีขึ้นค่า pm2.5 ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน เชื่อมั่นว่าเครื่องฟอกอากาศนี้จะมาทำให้สุขภาพของประชาชนในตัวเมืองเชียงใหม่ดีขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ 9 หมู่บ้าน ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน  ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา มีไฟป่าเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากถึง 128 จุด ทำให้ให้ปัญหาหมอกควันไฟในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียงทวีความรุนแรง ทางเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมไฟป่าและเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและของกองกำลังผาเมืองระดมบิน 76 เที่ยวบิน เพื่อดับไฟพื้นที่เป้าหมาย 9หมู่บ้าน ทำให้สถานการณ์ในอ.แม่สะเรีย งเริ่มคลี่คลาย จุดความร้อนลดลงเหลือเพียง 25 จุด


ขณะที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ  จ.น่าน   บริเวณชายแดนไทย-ลาว  ต้องเผชิญวิกฤตหมอกควันอย่างหนัก มีหมอกควันปกคลุมหนาแน่นทั่วท้องฟ้าจนไม่สามารถมองเห็นภูเขาสูง     ค่าฝุ่นละอองพุ่งสูงอยู่ในเกณฑ์อันตราย ขึ้นเป็นอันดับ1 ในภาคเหนือ  แซงจ.เชียงใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว ตรวจวัดค่าฝุ่นขนาดเล็ก  PM2.5 ตรวจพบ 134 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  อยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพขณะที่จุดความร้อน ในเขตป่าอนุรักษ์และป่าสงวน   8 จุด กระจายใน 4 อำเภอเฉลิมพระเกียรติ,ท่าวังผา,ปัว  และที่ อ.นาหมื่น ไฟไหม้ป่าสงวนฯ-ป่าอุทยานขุนสถาน บริเวณสวนป่าห้วยเสียม  และบริเวณป่าขุนเคิม  ป่าในเขตป่าอุทยานขุนสถานฯ เนื่องจากสภาพพื้นที่  เป็นเขาสูงชัน  และหน้าผา  เป็นอุปสรรคในการดับไฟป่า  จึงไม่สามารถดับไฟได้  ทำได้เพียงควบคุมไม่ให้ลุกลามพื้นที่ใกล้เคียง โดยเบื้องต้นพบป่าเสียหายกว่า 300ไร่    เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนางเปีย  เเช่เล้า ราษฎรหมู่บ้านดอยติ้ว ต.ศรีภูมิอ.ท่าวังผา   ฝ่าฝืนทำการเผาพื้นที่การเกษตรในเขตป่า ดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้านนายวรกิตติ ศรีทิพากร  ผวจ.น่าน ได้เร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ เร่งฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นช่วยปรับสภาพอากาศให้ดีขึ้น เพราะการเผาป่ามีเพียง 1 จุด ส่วนหมอกควัน มาจากประเทศเพื่อนบ้าน.