ข่าวกอ.รมน.ตะลุยบุกจับ'ผับเวียดนาม'ย่านฝั่งธนนักเที่ยวอื้อ - kachon.com

กอ.รมน.ตะลุยบุกจับ'ผับเวียดนาม'ย่านฝั่งธนนักเที่ยวอื้อ
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 6 เม.ย. พ.อ.วิโรจน์ หนองบัวล่าง หน.การข่าว กอ.รมน.กทม. และพ.อ.ศรุติ รัตโนทัย รองหน.กลุ่มงานรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กทม. ทหารกองร้อยรักษาความสงบ กองพลทหารที่ 9 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.กทม. และตำรวจ สน.บางยี่ขัน เข้าปิดล้อมตรวจค้นสถานบันเทิงนิวแจ๊ส 2 ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า หน้าบ้าน แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ หลังจากมีผู้ร้องเรียนว่าเปิดให้บรรดาชาวต่างด้าวมั่วสุมส่งเสียงดัง พบว่าเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นผับสถานบันเทิงขนาดใหญ่ พบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติกำลังดื่มกินเต้นรำอย่างสนุกสนาน ทางเจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ปิดเพลง เปิดไฟส่องสว่าง แล้วทำการตรวจหาสารเสพติด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณชั้น 2 แบ่งห้องเปิดเป็นห้องโซนคาราโอเกะ ชื่อเอเวอร์กรีน เรสโทวรองต์ พบนักท่องเที่ยวกำลังมั่วสุมเล่นพนันไฮโล และมีบางส่วนเสพยาเสพติดกัน ถัดไปพบห้องคาราโอเกะถูกดัดแปลงเป็นสถานที่วางตู้เกมพนันปลาออนไลน์ และมีคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์  จึงปิดล้อมพร้อมให้นักท่องเที่ยวอยู่ในความสงบ ขณะนั้นมีชายชาวต่างด้าว 1 ราย พยายามปีนออกทางหน้าต่าง บนชั้น 2 เพื่อหลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ก่อนรวบรวมไว้เป็นหลักฐานส่งมอบให้ทางตำรวจ สน.บางยี่ขัน
 


ด้านพ.อ.วิโรจน์ กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนมาโดยตลอดว่าสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นแหล่งมั่วสุมของชาวต่างชาติ มีฉายาว่า "ผับเวียดนาม" มักจะคัดกรองเฉพาะชาวลาว และชาวเวียดนาม มาใช้บริการเท่านั้นโดยพยายามไม่รับคนไทย และเปิดมาเป็นเวลานานแล้ว โดยจากการตรวจค้นครั้งนี้พบนักท่องเที่ยวทั้งหมด 31 ราย เป็นชาวไทย 17 ราย เป็นชาย 8 คน เป็นหญิง 9 คน และเป็นชาวต่างชาติ 14 คน เป็นชาย 5 คน และหญิง 9 คน ซึ่งพบว่ามีปัสสาวะสีม่วง 6 ราย และยังพบยาเสพติด พร้อมอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ ยาเค และเตาบารากุอีกจำนวนหนึ่งนอกจากนี้ยังพบโต๊ะพนันไฮโล 1 ตัว ลูกเต๋าพร้อมถ้วย 1 ชุด ตู้เกมปลาออนไลน์ 1 เครื่อง เรื่องคอมพิวเตอร์สำหรับ เล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ 5 เครื่อง แต่ไม่สามารถจับกุมผู้ที่เป็นนักพนันได้ แต่เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิดของร้านเอาไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนผู้ที่ดูแลสถานบันเทิงแห่งนี้ทางตำรวจท้องที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาให้ปากคำอีกครั้ง อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณาว่าการกระทำความผิดครั้งนี้จะเข้าข่ายผิดคำสั่ง คสช.ที่22 หรือไม่ หากพบว่าผิดจริงจะดำเนินการสั่งปิดทันที หลังจากนี้จะประสานทางสำนักงานเขตมาตรวจสอบเรื่องการต่อเติมตัวอาคารด้วยว่าเป็นการต่อเติมที่ผิดหรือไม่ เบื้องต้นได้ทำการแจ้งข้อหา"ปล่อยปละละเลยให้มียาเสพติดในสถานบริการยินยอม,จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ,ปล่อยให้มีการเล่นพนัน และเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวผู้กระทำความผิด พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.