ข่าววอนขอแสงแรกให้หลานแฝด 'ดวงตา'ใกล้มืดมิดเต็มที - kachon.com

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบความเป็นอยู่ของ นางลพิณ นาคำ อายุ 51 ปี ผู้เป็นยายและชีวิตของหนูน้อยฝาแฝดวัย 1 ขวบกว่า ที่มีดวงตาอันมืดมิดแต่แรกเกิด ที่บ้านเลขที่ 183 หมู่ 12 บ้านภูพานทอง ต.หนองบัว อ.เมืองหนองบัวลำภู หลังจากที่มีคนโพสต์ถึงความน่าเวทนาและชีวิตที่น่าสงสาร โดยพบว่าสภาพบ้านไม่มั่นคงและไม่ปลอดภัยอย่างมาก

สืบเนื่องจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมา นางปุริมพรรษ มหาเสนา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ศูนย์การแพทย์ชุมชน รพ.หนองบัวลำภู พร้อมคณะได้ลงเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียงคือ นายบวร นาคำ อายุ 53 ปี สามีของนางลพิณ ซึ่งป่วยด้วยเบาหวานและไตวายระยะสุดท้าย แต่ปฏิเสธการฟอกไต เนื่องมาจากความยากจนทำให้ต้องยอมรับความตาย ที่กำลังจะมาถึงด้วยความกล้าหาญ เพราะเมื่อถึงการป่วยระยะสุดท้ายทางแพทย์ผู้รักษาจะให้ผู้ป่วยเลือกและตัดสินใจแนวทางการรักษาเองว่าจะไปต่อแบบใด ซื่งครอบครัวนี้เลือกลับมารักษาที่บ้านแบบประคับประคองไปวันต่อวัน ก่อนจะเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 19 ต.ค.61



ขณะเดียวกันในบ้านนี้มีเด็กแฝดอายุ 1 ปีครึ่ง อยู่ร่วมชายคาด้วยคือ ด.ช.มิกซ์ และด.ช.แม๊ก ที่เกิดจากลูกสาวนางลพิณที่คลอดก่อนกำหนด ดวงตาคล้ายจะมืดบอดทั้งคู่แล้ว ก่อนที่พ่อแม่เด็กจะเดินทางไปทำงานที่ กทม.คอยแบ่งเงินส่งกลับมาให้บ้าง ด้วยความยากจนข้นแค้นต้องประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวันต่อวัน ยายยังต้องดิ้นรนหาผ้าอ้อมสำเร็จรูปกับเครื่องอุปโภคบริโภคมาให้หลานๆอีก

นางปุริมพรรษ มหาเสนา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ศูนย์การแพทย์ชุมชน รพ.หนองบัวลำภู ที่เข้าไปตรวจเยี่ยมครอบครัวนี้ เล่าว่า เด็กฝาแฝดมีพัฒนาการด้านสมองช้าเล็กน้อย มักใช้มือจิ้มตา 2 ข้าง จนบางครั้งตาแดงอักเสบผลพวงจากเยื่อหุ้มจอประสาทตาไม่เปิด ทำให้จอประสาทตาไม่มีการเจริญเติบโต ยากแก่การมองเห็น หมอบอกว่าอย่างมากแค่เหมือนส่องไฟฉายผ่านตาใขขณะที่เราหลับสนิทแค่นั้นเอง และยังพบอีกว่าเด็กใช้สิทธิ์บัตรทองได้



"ขณะนี้หนูน้อยทั้ง 2 คนมีอายุ 1 ปีครึ่ง ควรทบทวนเรื่องการออกใบรับรองพิการได้แล้วจึงให้ยายได้จัดการ บอกทางแม่เด็กให้ถามหมอที่ รพ.ราชวิถี(สถานที่เด็กรักษาตัวและคลอดที่นี่)เฝ้าติดตามจนทำบัตร ผู้พิการได้สำเร็จเนื่องจากถ้าเด็ก 2 คนนี้ป่วยจะต้องจ่ายค่ารักษา ถ้าเป็นบัตรทองต่างจังหวัดที่รักษานอก รพ.ราชวิถี จะต้องจ่ายครั้งละหลายพันบาท ยิ่งทำให้ครอบครัวนี้ที่ยากจนอยู่แล้วลำบากมากขึ้น" พยาบาลวิชาชีพ เผย

ด้าน นางลพิณ ผู้เป็นยายเล่าว่า หลังสามีเสียชีวิต ตนต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพไปวันๆเงินที่ได้จากเบี้ยคนพิการของหลานฝาแฝดและเงินที่ลูกสาวฝากมาเป็นรายเดือนแทบจะไม่พอใช้จ่ายประจำวัน หากวันไหนนมหมดก็ต้องพึ่งนมที่ผู้ใจบุญฝากมาให้แต่คุณค่าของนมไม่เหมาะกับเด็ก แต่ต้องทำใจเพื่อให้น้องฝาแฝดหายหิว จึงอยากจะขอวิงวอนให้หมอเก่งๆแล้วก้ใจกุศลช่วยรับเด็กทั้งคู่ไปผ่าตัดให้ดวงตามองเห็นด้วยเถอะ ตอนนี้มันใกล้จะมืดบอดสนิทแล้ว ความหวังสูงสุดคงมีแค่นั้น ส่วนเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ อาหารการกิน หากตนไม่ตายไปเสียก่อนจะสู้มันทุกวิถีทางเพื่อให้หลานทั้งคู่เติบโตเป็นคนดีเอง หากผู้ใจบุญท่านใดต้องการติดต่อสอบถามสามารถดทรฯถามได้ที่เบอร์ของยายได้ เบอร์ 092-796-3799.