เจาะชีวิตสาวยาคูลท์วัย60 จบป.4มัธยัสถ์มีบ้าน3หลัง
ข่าวประจำวัน
มาตามนัดเช่นเคย ทุก ๆ 2 สัปดาห์เราจะเจอกันหนึ่งครั้ง กับสาระความรู้ดี ๆ ที่จะพาไปล้วงความลับของยาคูลท์ขวดจิ๋ว ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะมีโอกาสได้พูดคุยกับ “หญิงแกร่งในตำนาน” ที่จะมาเล่าประสบการณ์นับตั้งแต่เดินเข้ามาในอาชีพ “สาวยาคูลท์”
ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี ที่หญิงผู้นี้ “อรอนงค์ อินทผลา” วัย 60 ปี สาวยาคูลท์เขตพุทธมณฑล สาย 5 กรุงเทพฯ ทุ่มเทให้กับงาน ซึ่งก็ยังทำหน้าที่สาวยาคูลท์จนถึงปัจจุบัน โดยเส้นทางสายนี้เริ่มจากเมื่อ “พี่อร” อายุได้ 24 ปี สาวโพธาราม จ.ราชบุรี ออกเดินทางมาที่กรุงเทพฯ เพื่อหางานทำหวังหลุดพ้นจากความลำบากที่บ้านฐานะยากจน แต่ด้วยความรู้ชั้นป.4 บริษัทใหญ่ ๆ ไม่มีใครรับเข้าทำงาน ทว่าขณะนั้นในปี 2524 บริษัท ยาคูลท์ กลับเปิดโอกาสให้เธอใช้ความสามารถ
“พี่อร” เช่าห้องเดือนละ 400 บาท อยู่กับเพื่อน 2 คน ตั้งใจแล้วว่าจะทำอาชีพนี้ให้ดีที่สุด เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี เธอทำได้สำเร็จในระดับหนึ่ง ยอดขายทำได้เกินเป้าหมาย เพราะเธอไม่ใช่คิดแค่จะขายเพียงอย่างเดียว แต่เธอคิดว่า “ถ้าเราบริการลูกค้าด้วยหัวใจ สร้างความประทับใจให้ลูกค้า ยกมือไหว้ทุกครั้ง ยังไงลูกค้าก็จะกลับมาซื้อเราอีกครั้ง”
“ป้า ๆ ไม่ต้องไหว้หรอก...” นี่เป็นคำพูดของลูกค้าที่เธอมักจะได้ยินเป็นประจำ แต่จะเป็นประโยคเดียวในชีวิตที่เธอไม่เคยปฏิบัติตามแม้แต่น้อย เพราะถ้าไม่มีลูกค้า ก็ไม่มีเธอในวันนี้เช่นกัน
ในด้านครอบครัวเธอแต่งงานกับสามี และมีลูกด้วยกัน 2 คน ทั้งคู่เป็นผู้ชาย โดยคนโตอายุ 30 กว่าแล้ว เรียนจบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สามารถทำงานหาเงินดูแลครอบครัว รายได้ร่วมแสนบาท ส่วนคนเล็กเรียนจบวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้เป็นผลสำเร็จ โดยทั้งคู่ได้รับสวัสดิการค่าเล่าเรียนบุตรจาก บริษัท ยาคูลท์ ซึ่งถือว่าช่วยเหลือครอบครัวได้เป็นอย่างมาก
“แม้ว่าพี่จะมีความรู้น้อย แต่ทุกครั้งที่เขาติดตามไปทำงาน เขาเห็นเหงื่อเราไหล พี่จะสอนลูกเสมอว่า เห็นเงินของลูกค้าวางไว้อย่าขี้ขโมย และอย่าหัดเป็นคนโกหก และไม่ต้องอายว่าแม่ความรู้น้อยเป็นสาวยาคูลท์ แต่จงภูมิใจว่าแม่ทำอาชีพสุจริต”
ลูก ๆ ทั้ง 2 คนของพี่อร จดจำและรู้ดีว่าถ้าต่อไปเราไม่มีความรู้ ครอบครัวอาจจะแย่ได้ ทุกวันนี้ทั้งคู่จึงทำทุกอย่างก็เพื่อให้พ่อกับแม่ภูมิใจ เพื่อน ๆ ทั้งหมอ พยาบาล ตำรวจ ก็จะยกมือไหว้ “สาวยาคูลท์” คนนี้ทุก ๆ ครั้ง มันทำให้พ่อกับแม่ยิ้มแก้มเพราะภูมิใจในตัวลูก ๆ เข้าไปอีก
อาชีพสาวยาคูลท์นั้นเป็นอาชีพที่ “ซื่อสัตย์กับลูกค้า ก็คือซื่อสัตย์กับตัวเอง” เป็นคำนิยามที่พี่อรยึดเป็นแนวทางการทำงานมาตลอดเกือบ 40 ปี แม้เวลาจะเปลี่ยนผ่านจากจักรยานสู่รถจักรยานยนต์ “ขยัน-ซื่อสัตย์-อดทน” ก็ยังเป็น 3 หัวใจหลักทำให้มีรายได้มั่นคง มีเงินเก็บไว้ใช้ยามแก่เฒ่า นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลจากบริษัทฯ หลายอย่าง เช่น ทองคำ รวมถึงได้เที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ความมานะหมั่นอดออมเล็ก ๆ น้อย ๆ จึงทำให้เธอมีบ้านได้ถึง 3 หลังเก็บไว้ให้ลูก ๆ สร้างครอบครัวจากคนที่ไม่มีอะไรเลย จนมีความสุขในชีวิตด้วยอาชีพ “สาวยาคูลท์”
“ขอบคุณบริษัท ยาคูลท์ มาก ๆ ที่ให้โอกาสและมองเห็นความสามารถของคนบ้านนอกคนหนึ่ง ที่ไม่มีความรู้สูง ๆ ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนรู้จักยาคูลท์มาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าวันที่ 14 เม.ย.62 ที่จะถึงนี้จะมีอายุครบ 60 ปีแล้ว แต่พี่ก็ยังอยากจะทำต่อไปเรื่อย ๆ เพราะรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้สวมเสื้อ กางเกง และหมวก ชุดของสาวยาคูลท์นี่แหละที่รักที่สุด” สาวยาคูลท์ยุคบุกเบิกในตำนานผู้นี้ กล่าวทิ้งท้าย.
รู้จักยาคูลท์เพิ่มเติมที่ : @บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด
คลิกที่นี่...อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับยาคูลท์
ร่วมสนับสนุนโดย :