เปิดใจบิ๊กไบค์ใจหล่อ พาแม่ลูกฝ่ารถติดส่งรพ.ทันเวลา
ข่าวประจำวัน
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" รายงานว่า โลกออนไลน์เกิดกระแสแชร์อย่างหนัก ภายหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก@Tak Chayada ได้เล่าเรื่องราวขณะที่รถติดอยู่บนถนนย่านแยกศูนย์วัฒนธรรม ลูกชายกลับเกิดอาการสะอึก ตาลอย น้ำลายไหล คอพับคออ่อนแบบหมดเรี่ยวแรง แต่ด้วยความที่รถติดหนัก ไม่สามมารถขับไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ จึงเปิดกระจกรถร้องขอให้มอเตอร์ไซค์ที่อยู่ใกล้ที่สุดขับขี่พาไปยังหาหมอ จนเจอเข้ากับหนุ่มบิ๊กไบค์ใจดีพาซ้อนท้าย โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวได้ระบุเพิ่มเติมว่า "ไม่รู้จะตามหาน้องเค้ายังไง ทะเบียนรถมองไม่เห็นเลย บุคคลพลเมืองดีคนนี้แหล่ะค่ะที่ช่วยลตินส่ง รพ. ได้ทันเวลา ถ้าไม่ได้น้องเค้า หัวใจแต๊กคงแตกสลายแน่นอน" พร้อมเผยภาพนาทีที่บิ๊กไบค์ช่วยพาเจ้าของโพสต์พร้อมด้วยลูกชายมาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา จนกลายเป็นกระแสตามหาตัวหนุ่มคนดังกล่าวไปทั่วสังคมออนไลน์อย่างล้นหลามกว่า 2.9 พันครั้งนั้น
โดยล่าสุด นายณัฐพล มัคสิงห์หรือณัฐ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่4 สาขาบัญชีบริหาร คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งเป็นเจ้าของบิ๊กไบค์ดังกล่าว ได้ให้สัมภาษณ์กับ "เดลินิวส์ออนไลน์"" เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ขับขี่Kawasaki z800 จากย่านเหม่งจ๋าย เพื่อที่จะไปทานข้าวกับพี่ๆที่ฝึกงาน โดยระหว่างที่รถติดอยู่ใกล้กับแยกผังเมือง เขตห้วยขวาง ก็เห็นคุณแม่ท่านหนึ่งเปิดกระจกรถฝั่งด้านข้างคนขับด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา พร้อมตะโกนขอให้ช่วยพาลูกชายซึ่งทราบชื่อว่าน้องลติน ที่ดูตาลอยไร้เรี่ยวแรงเพื่อไปส่งโรงพยาบาล
"นาทีนั้นผมก็ตกใจที่เห็นแบบนั้น น้องเขาดูอาการแย่มาก รถก็ติดจนคุณพ่อน้องก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็รู้สึกว่าต้องช่วย ไม่ได้คิดว่าเรามีธุระจะไปถึงที่หมายช้าหรืออะไร คิดแต่ว่าน้องเขาต้องปลอดภัย จึงตัดสินใจรับคุณแม่พร้อมหนูน้อยขึ้นมาซ้อนท้ายเพื่อส่งโรงพยาบาล โดยตอนแรกผมเลี้ยวไปอีกทางแต่เจอเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรใจดีบอกทางและอนุญาตให้ขี่รถสวนเลนกลับรถ ทั้งยังช่วยวิทยุให้พี่ตำรวจทั้ง 2 แยกไฟแดงที่ต้องขี่รถผ่านช่วยอำนวยความสะดวก จนผมสามารถพาน้องและคุณแม่ไปส่งโรงพยาบาลพรราม9 อย่างปลอดภัย" นายณัฐพลกล่าว
หลังจากที่ส่งทั้งสองคนแล้วก็รู้สึกโล่งใจมาก แต่ก็ไม่คิดว่าคุณแม่น้องจะไปตามหารูปตนขณะไปส่งที่หน้าโรงพยาบาลเพื่อตามหาตัว ซึ่งตอนนี้ก็ได้พูดคุยกันจนทราบว่า หากไปถึงมือคุณหมอช้ากว่านี้ ก็อาจจะเสี่ยงเสียชีวิตได้ แต่ตอนนี้น้องอาการปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็อยากจะฝากถึงหลายๆคนที่อาจจะไม่กล้ารับใครติดรถด้วย สมัยนี้คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจก็ขอให้ใช้วิจารณญาณของตนเอง เพราะเชื่อว่าหากเจอสถานการณ์ต่างๆทุกคนก็คงจะเห็นได้ว่าใครที่เดือดร้อนจริงๆ ซึ่งหากเราสามารถช่วยได้เท่าที่สามารถทำได้ สังคมเราจะน่าอยู่มากขึ้น...
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Nut Muck,@Tak Chayada