ข่าวช้ำใจ'ปอร์เช่'ชนดับ1-สาหัส1 ตร.บอกอย่าให้เป็นเรื่องใหญ่! - kachon.com

ช้ำใจ'ปอร์เช่'ชนดับ1-สาหัส1 ตร.บอกอย่าให้เป็นเรื่องใหญ่!
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" รายงานว่าโลกออนไลน์เกิดกระแสแชร์อย่างหนัก ภายหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก@แทงค์น้ำ มาเฟิย ระบุ "#คนรวยขับรถชนคนตายไม่ต้องติดคุก? #ขอคนล่ะแชร์ให้ความเปนธรรมน้องผมหน่อยครับ" โดยน้องสาว 2 คนถูกรถปอร์เช่ชนขาขาด 2 คน ซึ่งน้องคนแรกเสียชีวิตแล้ว ส่วนอีกคนอาการ 50-50 ทั้งยังสูญเสียลูกในท้อง เมื่อไปสอบถามด้านคดี ทางตำรวจกลับบอกว่า "อย่าทำเรืองเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่" จนเรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นกระแสแชร์วิจารณ์ไปทั่วสังคมออนไลน์อย่างรุนแรงนั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊ก @แทงค์น้ำ มาเฟิย ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพิ่มเติมกับ"เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ภรรยาเพื่อน คือ น้องโอ๋ อายุ 24 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ และ น้องไตเติ้ล อายุ 22 ปี ได้ขี่มอเตอร์ไซค์กำลังจะเข้าบ้านที่ซอยพุทธมณฑลสาย 3 แต่กลับถูกรถยนต์ปอร์เช่ เคย์แมน เอส (Porsche Cayman S) สีขาว ที่ขับมาด้วยความเร็วชนเข้าจากทางด้านหลัง จนร่างน้องกระเด็นไปชนกำแพง ขาขาด และยังชนบ้านเรือน ร้านค้าและรถยนต์บริเวณใกล้เคียงจนพังยับ 



ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุทางกู้ภย เพื่อน และผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้บอกกับตนว่า ทางคนขับปอร์เช่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เและไม่ได้ลงไปดูอาการคนบาดเจ็บ ทั้งยังบอกว่าจะให้เงิน 2 หมื่นบาทเพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยพาหลบหนี แต่สุดท้ายไม่มีใครช่วยพาหนี ทางคนขับปอร์เช่จึงโทรให้เพื่อนมารับแล้วออกจากที่เกิดเหตุไป โดยไม่ติดต่อมาทางผู้สูญเสียอีกเลย เมื่อตนไปสอบถามด้านคดีกับตำรวจเจ้าของพื้นที่ ก็ไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ทั้งที่ ตนไปสืบทราบมาว่าคนขับรถปอร์เช่เพิ่งขับออกมาจากผับแห่งหนึ่งด้วยความเร็ว และยังไม่ขอบอกชื่อคนขับโดยระบุว่า "เป็นความลับ" แถมยังบอกอีกว่า "ให้บอกกับทางประกันของปอร์เช่ว่าเขาไม่ได้เมา จะได้จ่ายค่าเสียหาย อย่าทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่" ซึ่งหลังจากที่ตนโพสต์เรื่องที่เกิดขึ้นลงโซเชียลไป ตำรวจได้บอกว่า ทางทนายของหนุ่มปอร์เช่ได้ติดต่อมาว่า จะขอมอบเงินให้ 5 หมื่นบาท พร้อมพวงหรีด 1 พวง



"ตอนที่ผมได้ยินแบบนั้นก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทั้งที่น้องผมเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน ส่วนน้องโอ๋ ต้องตัดขาและแขน แพทย์แจ้งว่าอาการ 50-50 ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและได้รับเลือดตลอด เนื่องจากตับ ม้ามแตก ต้องใส่เหล็กดามไว้ อีกทั้งยังสูญเสียลูกน้อยในท้องที่มีอายุครรภ์ราว 2-3 เดือน จนตอนนี้เพื่อนผมซึ่งเป็นสามีน้องโอ๋ยังช็อกและรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ มันจะเป็นเรือ่งเล็กได้อย่างไร ชีวิตคนหนึ่งคนที่ไม่รู้เรื่องต้องมาสูญเสียไปแบบนี้ ผมทนเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวเพื่อนและน้องที่ผมรักเหมือนญาติแบบนี้ไม่ได้ จึงโพสต์ลงโซเชียล หวังว่ากระแสในโลกออนไลน์จะช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม และเรียกร้องหาจิตสำนึกของคนที่ชอบแล้วหนีแบบนี้ออกมาแสดงความรับผิดชอบครับ" เจ้าของโพสต์กล่าวทิ้งท้าย...



ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @แทงค์น้ำ มาเฟิย