ข่าวเจอแล้ว'โอปอ'ล่องหน8เดือน เซ็งแอบย่องมาบ้านโดนซิว - kachon.com

เจอแล้ว'โอปอ'ล่องหน8เดือน เซ็งแอบย่องมาบ้านโดนซิว
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์  พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ แถลงผลการจับกุมตัว น.ส.ประภาพรรณ ภูอุทา หรือ โอปอ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 4 ต.นาเชือก อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ จ.251/2561 ลงวันที่ 20 ก.ค.2561 ข้อหา หลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาและหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคามที่ จ.164/2561 ลง 21 ส.ค.2561 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ นำโดย ร.ต.อ.อมร เดชศรี รองสว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 69 หมู่ 4 ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ขณะที่ผู้ต้องหากลับมาที่บ้านเมื่อช่วงคืนวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ กล่าวว่า สำหรับน.ส.ประภาพรรณ เป็นผู้เสียหายในคดีคนร้ายขับรถปาดหน้าแล้วฉุดขึ้นรถไปเรียกค่าไถ่ที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯ ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.61 โดยเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 5 คน ซึ่งจากการสอบสวนพบว่าไม่ใช่การเรียกค่าไถ่ แต่เป็นการทวงหนี้ที่ติดค้างกัน จากนั้นเมื่อวันที่ 11 ก.ค.61 ตำรวจได้จับกุมตัว นายบรรณวิทย์ หรือ กระทิง กนกหงส์ พร้อมของกลางยาบ้า 4 ,000 เม็ด ที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.มหาสารคม ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลทราบว่า น.ส.ประภาพรรณ ซึ่งเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของนายบรรวิทย์ เป็นผู้ที่เปิดห้องพักดังกล่าวไว้และมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดมหาสารคาม ในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย



จากนั้นเมื่อวันที่ 18 ก.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ได้จับกุมตัวน.ส.ประภาพรรณ หลังจากเดินทางไปขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ โดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและมีเจ้าหน้าที่เอี่ยวด้วย แต่ในระหว่างขั้นตอนจะนำตัวส่งไปยังพนักงานสอบสวน สภ.มหาสารคาม น.ส.ประภาพรรณ ได้ฉวยโอกาสหลบหนีไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งชุดออกติดตามหาตัวทั้งในตัวจังหวัด ต่างจังหวัด และประเทศฝั่งเพื่อนบ้าน แต่ก็ยังไม่พบว่าน.ส.ประภาพรรณ ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังติดตามอย่างต่อเนื่อง กระทั่งผ่านไปประมาณ 8 เดือนแล้ว โดยทราบว่าน.ส.ประภาพรรณ ได้ปล่อยข่าวลวงว่าได้อยู่นอกประเทศแต่แท้ที่จริงแล้วได้หลบหนีอยู่ในพื้นที่ กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 มี.ค.62 ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า น.ส.ประภาพรรณ ได้เดินทางกลับมาที่บ้านจึงลงพื้นที่ดักซุ่มและเข้าควบคุมตัวได้ดังกล่าว 



จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีอยู่ภายในประเทศไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศ โดยช่วงที่หลบหนีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ได้รอโอกาสตำรวจเผลอและแอบหลบหนีไปเฉยๆ ส่วนกรณีที่ตกเป็นผู้เสียหายในการถูกลักพาตัวไปก็ต้องสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ต้องแยกเป็น 2 คดี คือ เรื่องของการลักพาตัว และเรื่องของยาเสพติด เป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระ ทั้งนี้ส่วนกรณีที่น.ส.ประภาพรรณ ไปร้องกับศูนย์ดำรงธรรมและอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้ได้ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใดเป็นเพียงการกล่าวอ้างเท่านั้น หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนี