ข่าวโอละพ่อ'ธนชาต'งัดหลักฐาน ป้ารีบถอนแจ้งความเงินหาย - kachon.com

โอละพ่อ'ธนชาต'งัดหลักฐาน ป้ารีบถอนแจ้งความเงินหาย
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ก.พ. นางจันทนี หรทึก อายุ 67 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี อ้างว่าเงินที่อยู่ในบัญชีธนาคารธนชาต จำนวน 72,222.67 บาท ซึ่งฝากไว้ตั้งแต่ปี 49 ได้หายไป ซึ่งจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลหลักฐานจากทางธนาคารธนชาต ทั้งที่เป็นเอกสารและพยานบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ทำรายการและผู้อนุมัติ รวมทั้งสลิปการเบิกถอนเงิน เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับลายมือของลูกค้าผู้ร้องเรียน พบว่าบัญชีดังกล่าวเปิดมาตั้งแต่เป็นธนาคารนครหลวงไทย ก่อนควบรวมกับธนาคารธนชาต ต่อมา นางจันทนี แจ้งความว่าสมุดบัญชีดังกล่าวหายไป และนำบันทึกประจำวันไปขอออกสมุดใหม่



จากนั้นได้ทยอยเบิกถอนเงินจากสมุดบัญชีเล่มใหม่จนเกือบหมด และบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ทางธนาคารจึงแจ้งขอปิดบัญชีไป แต่จากนั้น นางจันทนี ไปพบสมุดบัญชีเล่มเก่าที่หายไป เข้าใจว่ายังมีเงินอยู่ จึงมาขอเบิกถอนและนำไปสู่การแจ้งความ ซึ่งธนาคารธนชาตนำส่งเอกสารต่างๆ อาทิ หลักฐานการถอนเงินจากบัญชี และบันทึกแจ้งความเรื่องเอกสารหายให้พนักงานสอบสวน ทางตำรวจจึงเชิญตัว นางจันทนี มาตรวจสอบเอกสารที่ธนาคารนำส่งมา ก่อนยอมรับว่าตนหลงลืม จำไม่ได้ว่าถอนเงินไปเอง ไม่มีเจตนากระทำการให้ธนาคารเสียหาย 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มี.ค. พ.ต.อ.ประสาน แก้วมหาสุริวงษ์ ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้เชิญตัว นางจันทนี หรทึก พร้อมญาติ และนางสุภาลักษณ์ ตั้งจิตต์ศีล ผู้อำนวยการอาวุโส งานสื่อสารและบริหารแบรนด์ ธนาคารธนชาต พร้อมเจ้าหน้าที่ธนาคาร มาร่วมพูดคุยและดูหลักฐานเกี่ยวกับยอดเงินในธนาคารที่หายไป ซึ่งจากการพูดคุยทั้งสองฝ่าย ปรากฏว่าเป็นการหลงเอาใจผิดของนางจันทนี ที่ได้ทำการเบิกเงินออกไปแล้ว



"ป้าจันทนีได้มาแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่าป้าเคยฝากเงินไว้กับธนาคาร ต่อมาตรวจสอบพบว่าเงินในบัญชีได้หายไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานไปยังทางธนาคาร เพื่อนำเอกสารหลักฐานมาให้ป้าดูในเบื้องต้น และจากการตรวจสอบของคุณป้าแล้วยืนยันว่าเป็นการหลงลืมและทั้งหมดเป็นลายมือของป้าเอง" พ.ต.อ.ประสาน กล่าว

ด้าน นางจันทนี กล่าวว่า ช่วงเวลา 12 ปี ป้าได้หลงลืม พอได้มาดูเอกสารหลักฐาน พบว่าป้าได้ถอนเงินออกไปแล้ว ซึ่งการมาถอนแจ้งความในครั้งนี้ ไม่ได้มีใครบังคับ ที่ถอนเพราะหลักฐานของธนาคารตรวจสอบความจริงว่าป้าเป็นผู้ถอนเงินเอง ป้าอยากขอโทษธนาคาร ป้าตัวคนเดียวไม่มีอะไร อยากขอโทษธนาคารอย่าเอาผิดตนเลย



ขณะที่ นางสุภาลักษณ์ กล่าวว่า ทางธนาคารไม่ได้นิ่งนอนใจเข้าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ยืนยันว่าเป็นธุรกรรมที่เกิดจากการกระทำของคุณป้าจันทนีเอง เนื่องจากเหตุการณ์ 10 กว่าปีแล้ว แต่ทางธนาคารยังได้เก็บเอกสารหลักฐานไว้ มีทั้งเอกสารของธนาคารและเอกสารของทางราชการ เอกสารที่ยืนยันคือการลงบันทึกประจำวันแจ้งความสมุดบัญชีธนาคารหายไป ตั้งแต่ปี 50 แจ้งว่าสมุดบัญชีธนาคารหายไป เมื่อนำเอกสารทั้งหมดมาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและคุณป้าตรวจสอบแล้วได้ถอนแจ้งความ ส่วนเรื่องการแจ้งความกลับนั้น ต้องให้ผู้มีอำนาจระดับสูงเป็นผู้พิจารณา.