ข่าวเชียงใหม่วิกฤติ PM 2.5พุ่งอากาศแย่อันดับ2ของโลก - kachon.com

เชียงใหม่วิกฤติ PM 2.5พุ่งอากาศแย่อันดับ2ของโลก
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณภาพอากาศที่จ.เชียงใหม่ในเช้าวันนี้พบว่า ได้เข้าสู่ช่วงวิกฤติอีกครั้งหนึ่ง หมอกควันปกคลุมเป็นจำนวนมากปกคลุมทั่วทั้งเมือง จนไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพจากระยะไกลได้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอนุภาคต่ำกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่า PM2.5 พบว่า ที่บริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน มีค่าสูงถึง 106 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่บริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน มีค่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะ เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ขณะที่บริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน  มีค่า 73 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว



จากการตรวจสอบจากข้อมูลดาวเทียมระบบ VIIRS   พบว่าได้มีการตรวจพบจุดความร้อน Hotspot ในเขต 9 จังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 824  จุด โดยพบมากที่สุดในจังหวัดน่าน จำนวน  185  จุด รองลงมาคือจังหวัดลำปาง จำนวน  152  จุด จังหวัดพะเยา จำนวน  124  จุด แลจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน  121  จุด ขณะที่เว็บไซต์ AirVisual ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในการจัดอันดับคุณภาพอากาศทั่วโลก ได้มีการแจ้งว่า ประเทศไทย มีค่า AQI อยู่ที่ 232 ซึ่งถือได้ว่ามีคุณภาพอากาศที่แย่  ติดอันดับ 2 ของโลก ลดลงมาจากเมื่อวานที่อยู่ในอันดับที่ 1 



ด้านนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.เชียงใหม่ ได้กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าในช่วงนี้ได้มีฝุ่นละอองขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก เนื่องจากความกดอากาศสูงเริ่มแผ่มาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ประกอบกับฝุ่นละออง ทั้งจากการเผาในพื้นที่เชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง ได้ถูกกระแสลมพัดเข้าสะสมในเขตเมืองซึ่งเป็นแอ่งกระทะ จึงทำให้จังหวัดเชียงใหม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทุกอำเภอเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบและปิดป่าไปในหลายพื้นที่แล้ว พร้อมสั่งการให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดข้อหาก่อให้เกิดไฟป่าในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งการให้ฉีดพ่นเพิ่มละอองน้ำในเขตชุมชน เพื่อเป้ฯการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับอากาศ อีกทั้งยังเป็นการลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กอีกทางหนึ่งด้วย