'เสี่ยล้ง'ไม่หวั่นทนายขู่ผิดก.ม. เลิกหาลูกเขยเข้าข่ายหลอก
ข่าวประจำวัน
Webmaster
2019-03-07 11:00:00
20
Webmaster
2019-03-07 11:00:00
20
-
สนับสนุนเนื่อหา
จากกรณี นายอานนท์ รถทอง หรือป๋านนท์ เสี่ยเจ้าของล้งทุเรียน อายุ 59 ปี ที่ จ.ชุมพร ได้ประกาศผ่านโลกโซเชียลหาสามีให้ลูกสาวแสนสวย ซึ่งได้มีชายหนุ่มและไม่หนุ่มจำนวนมากต่างสนใจที่จะไปเป็นลูกเขย และมีคนสมัครเป็นจำนวนหลายหมื่นคน แต่ล่าสุดเจ้าตัวได้ขอยกเลิกให้เป็นโมฆะและขอโทษสังคม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 7 มี.ค.นายอานนท์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ประกาศยกเลิกงานคัดเลือกลูกเขย ตนเองรู้สึกสบายใจขึ้น และ โล่งอก พูดง่ายๆ ว่าตนเองยอมโดนประชาชนด่าวันนี้ ดีกว่าไปทำให้เกิดเรื่องที่อาจจะไม่ดีในอนาคตในวันข้างหน้า และเป็นการป้องกันความสูญเสีย ความเสียใจที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งปัญหาด้านอื่นที่คาดไม่ถึง การตัดสินใจเมื่อวานนี้ ( 7 มี.ค.) จะไม่ทำให้ใครเกิดความเสียหาย ทั้งที่ใจจริงๆ ตนเองอยากจะเลือกลูกเขยที่ดีสำหรับลูกสาวของตนเอง และตั้งใจจะมอบเงิน 10ล้านบาท เพื่อให้ลูกสาวไปเริ่มชีวิตคู่ นั่นคือความตั้งใจจริง ยืนยันว่าเป็นความตั้งใจจริงๆ ไม่ได้โกหกประชาชนเพื่อโปรโมทแผงทุเรียน หรืออยากดัง เพราะตนเองตั้งใจโพสต์ในเพจของคนที่ทำธุรกิจแผงทุเรียน และเซียนพระเท่านั้น
“การมอบเงินให้กับลูกสาว และ ว่าที่ลูกเขยในอนาคต ผมยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง จนถึงเวลานี้ก็พร้อมที่จะมอบให้ถ้ามีลูกเขย เบื้องต้นคาดว่า กลุ่มเพื่อนๆ จะส่งลูกชายเข้ามาทาบทามประมาณ 10-20 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีมาทาบทามแล้ว แต่เมื่อมีคนจำนวนหนึ่งให้ความสนใจในวันแรกที่ข่าวออกไป ผมก็ยังตั้งใจว่าจะได้มีโอกาสคัดเลือกคนเหล่านั้น แต่วันที่ 2 กลับมีคนให้ความสนใจร่วมทะลุแสนกว่าคน รวมทั้งมีชาวต่างชาติอีกจำนวนหนึ่ง ก็เลยต้องมาคิดอย่างรอบคอบ ว่า จะมีผลดีหรือผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่นๆมากกว่ากัน เนื่องจากคนที่มาคัดเลือกนั้นมีจำนวนมาก จึงได้ปรึกษาความพร้อมกับครอบครัว โดยทุกคนเห็นว่าสถานที่รองรับคนที่เดินทางมานั้นไม่สามารถเป็นไปได้ ผมจึงเป็นลูกผู้ชายพอ จึงตัดสินใจยกเลิกและยอมให้คนด่าดีกว่าเกิดเหตุกับคนที่เดินทางในวันนั้น” นายอานนท์ กล่าว
นายอานนท์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีทนายความออกมาระบุว่า การยกเลิกคัดเลือกลูกเขยอาจจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพ์ เพราะนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบออนไลน์ ว่า ถ้าผิดก็ต้องยอมรับผิด แต่ในความรู้สึกของตนเองไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร เพราะไม่ได้คิดหลอกลวงประชาชนแต่อย่างใด.
อ่านข่าวเสี่ยล้งทุเรียนหาลูกเขยให้ลูกสาวทั้งหมดที่นี่
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 7 มี.ค.นายอานนท์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ประกาศยกเลิกงานคัดเลือกลูกเขย ตนเองรู้สึกสบายใจขึ้น และ โล่งอก พูดง่ายๆ ว่าตนเองยอมโดนประชาชนด่าวันนี้ ดีกว่าไปทำให้เกิดเรื่องที่อาจจะไม่ดีในอนาคตในวันข้างหน้า และเป็นการป้องกันความสูญเสีย ความเสียใจที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งปัญหาด้านอื่นที่คาดไม่ถึง การตัดสินใจเมื่อวานนี้ ( 7 มี.ค.) จะไม่ทำให้ใครเกิดความเสียหาย ทั้งที่ใจจริงๆ ตนเองอยากจะเลือกลูกเขยที่ดีสำหรับลูกสาวของตนเอง และตั้งใจจะมอบเงิน 10ล้านบาท เพื่อให้ลูกสาวไปเริ่มชีวิตคู่ นั่นคือความตั้งใจจริง ยืนยันว่าเป็นความตั้งใจจริงๆ ไม่ได้โกหกประชาชนเพื่อโปรโมทแผงทุเรียน หรืออยากดัง เพราะตนเองตั้งใจโพสต์ในเพจของคนที่ทำธุรกิจแผงทุเรียน และเซียนพระเท่านั้น
“การมอบเงินให้กับลูกสาว และ ว่าที่ลูกเขยในอนาคต ผมยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง จนถึงเวลานี้ก็พร้อมที่จะมอบให้ถ้ามีลูกเขย เบื้องต้นคาดว่า กลุ่มเพื่อนๆ จะส่งลูกชายเข้ามาทาบทามประมาณ 10-20 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีมาทาบทามแล้ว แต่เมื่อมีคนจำนวนหนึ่งให้ความสนใจในวันแรกที่ข่าวออกไป ผมก็ยังตั้งใจว่าจะได้มีโอกาสคัดเลือกคนเหล่านั้น แต่วันที่ 2 กลับมีคนให้ความสนใจร่วมทะลุแสนกว่าคน รวมทั้งมีชาวต่างชาติอีกจำนวนหนึ่ง ก็เลยต้องมาคิดอย่างรอบคอบ ว่า จะมีผลดีหรือผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่นๆมากกว่ากัน เนื่องจากคนที่มาคัดเลือกนั้นมีจำนวนมาก จึงได้ปรึกษาความพร้อมกับครอบครัว โดยทุกคนเห็นว่าสถานที่รองรับคนที่เดินทางมานั้นไม่สามารถเป็นไปได้ ผมจึงเป็นลูกผู้ชายพอ จึงตัดสินใจยกเลิกและยอมให้คนด่าดีกว่าเกิดเหตุกับคนที่เดินทางในวันนั้น” นายอานนท์ กล่าว
นายอานนท์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีทนายความออกมาระบุว่า การยกเลิกคัดเลือกลูกเขยอาจจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพ์ เพราะนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบออนไลน์ ว่า ถ้าผิดก็ต้องยอมรับผิด แต่ในความรู้สึกของตนเองไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร เพราะไม่ได้คิดหลอกลวงประชาชนแต่อย่างใด.
อ่านข่าวเสี่ยล้งทุเรียนหาลูกเขยให้ลูกสาวทั้งหมดที่นี่
