'แม่เฒ่า'เศร้าไม่รู้ลูกไร้ชีวิต นอนเฝ้าศพ3วันไม่ได้กลิ่น
ข่าวประจำวัน
Webmaster
2019-03-04 13:00:00
24
Webmaster
2019-03-04 13:00:00
24
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ร.ต.ท.(หญิง)ภัทรวดี หาญนึก รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ดินแดง รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตภายในห้องเลขที่ 237/3651 ชั้น 3 แฟลต 57 ดินแดง ถ.ประชาสงเคราะห์ 13 แขวงและเขตดินแดง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ รพ.รามาธิบดี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุภายในห้องบนชั้นลอยที่ดัดแปลงขึ้นมา บริเวณหลังห้อง พบศพ นายพรชัย แซ่เล้า อายุ 45 ปี สภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน นอนหงายขึ้นอืดส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน โดยห้องดังกล่าว มี นางเซียะเฮง แซ่เซียว อายุ 80 ปี ผู้เป็นแม่ และ น.ส.ปนัดชา แซ่เล้า อายุ 49 ปี พี่สาวผู้ตาย พักอาศัยอยู่ภายในห้อง จากการตรวจสอบโดยละเอียดไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่พบกัญชาจำนวนหนึ่ง เขียง และขวดพลาสติกใสภายในมีน้ำและเศษยาเส้น วางอยู่ข้างที่นอนผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไปตรวจสอบ
สอบสวน นางเซียะเฮง กล่าวทั้งน้ำตาว่า มีบุตร 3 คน เป็นหญิง 2 ชาย 1 ซึ่งที่ผ่านมาตนอาศัยอยู่กับผู้ตาย และบุตรสาวคนรองที่มีอาการทางสมอง ทั้งคู่เป็นเด็กที่ตนเก็บมาเลี้ยง ส่วนบุตรสาวคนโตแต่งงานไปอยู่กับแฟนไม่ได้อยู่ด้วยกัน บุตรชายทำงานรับจ้างทั่วไปสุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นเสาหลักคอยดูแลตน วันไหนไม่มีงานก็จะเอาเงินที่เหลือจากวันอื่นๆ มาใช้จ่าย ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันศุกร์ที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากกลับจากซื้อของ บุตรชายขึ้นไปนอนที่ชั้นลอย ส่วนตนและบุตรสาวนอนด้วยกันชั้นล่าง กระทั่งผ่านไปตอนเช้าเรียกให้ลงมากินข้าวก็ยังไม่ลงมา คิดว่าคงรีบไปทำงานแล้ว พอช่วงเย็นวันอาทิตย์เรียกให้มากินบะหมี่เกี๊ยวที่ซื้อมาให้ ก็ยังไม่มีเสียงตอบ อยากจะขึ้นไปดูแต่ก็ขึ้นไปไม่ไหว กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเพื่อนบ้านมาถามว่าที่ห้องเหม็นกลิ่นอะไร ตนก็ไม่ทราบเพราะไม่ได้กลิ่น ทางเพื่อนบ้านจึงขอขึ้นไปตรวจดูห้องนอนบุตรชาย จึงพบว่าเสียชีวิตแล้ว
ด้านเพื่อนบ้านที่พบศพ ให้การว่า ผู้ตายมักจะชอบดื่มสุราและเสียงดังเป็นประจำ ที่ผ่านมาเวลาผู้ตายเมาก็มักจะทำร้ายพี่สาวและแม่ จนต้องหนีขึ้นไปพักอยู่กับเพื่อนบ้านชั้น 4 ก่อนพบศพ 2-3 วันที่ผ่านมา เพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วแฟลต แต่ก็หาที่มาของกลิ่นไม่พบ จนกระทั่งเมื่อเช้าได้กลิ่นเหม็นแรงมากออกมาจากห้องที่พบศพ จึงสอบถาม นางเซียะเฮง และขอเข้าไปดูจนพบศพ ตนเองยังแปลกใจว่าทำไม นางเซียะเฮง และลูกสาวไม่ได้กลิ่นเหม็นทั้ง ๆ ที่อยู่ในห้องด้วยกัน
ร.ต.ท.หญิง ภัทรวดี กล่าวว่า เบื้องต้นทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิตของนายพรชัย ส่วนหลักฐานที่พบนั้นจะเป็นกัญชาหรือไม่ก็ต้องส่งไปตรวจสอบ หลังจากนี้จะส่งศพไปตรวจที่สถาบันนิติเวช รพ.รามาธิบดี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนส่งมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป.
สอบสวน นางเซียะเฮง กล่าวทั้งน้ำตาว่า มีบุตร 3 คน เป็นหญิง 2 ชาย 1 ซึ่งที่ผ่านมาตนอาศัยอยู่กับผู้ตาย และบุตรสาวคนรองที่มีอาการทางสมอง ทั้งคู่เป็นเด็กที่ตนเก็บมาเลี้ยง ส่วนบุตรสาวคนโตแต่งงานไปอยู่กับแฟนไม่ได้อยู่ด้วยกัน บุตรชายทำงานรับจ้างทั่วไปสุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นเสาหลักคอยดูแลตน วันไหนไม่มีงานก็จะเอาเงินที่เหลือจากวันอื่นๆ มาใช้จ่าย ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันศุกร์ที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากกลับจากซื้อของ บุตรชายขึ้นไปนอนที่ชั้นลอย ส่วนตนและบุตรสาวนอนด้วยกันชั้นล่าง กระทั่งผ่านไปตอนเช้าเรียกให้ลงมากินข้าวก็ยังไม่ลงมา คิดว่าคงรีบไปทำงานแล้ว พอช่วงเย็นวันอาทิตย์เรียกให้มากินบะหมี่เกี๊ยวที่ซื้อมาให้ ก็ยังไม่มีเสียงตอบ อยากจะขึ้นไปดูแต่ก็ขึ้นไปไม่ไหว กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเพื่อนบ้านมาถามว่าที่ห้องเหม็นกลิ่นอะไร ตนก็ไม่ทราบเพราะไม่ได้กลิ่น ทางเพื่อนบ้านจึงขอขึ้นไปตรวจดูห้องนอนบุตรชาย จึงพบว่าเสียชีวิตแล้ว
ด้านเพื่อนบ้านที่พบศพ ให้การว่า ผู้ตายมักจะชอบดื่มสุราและเสียงดังเป็นประจำ ที่ผ่านมาเวลาผู้ตายเมาก็มักจะทำร้ายพี่สาวและแม่ จนต้องหนีขึ้นไปพักอยู่กับเพื่อนบ้านชั้น 4 ก่อนพบศพ 2-3 วันที่ผ่านมา เพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วแฟลต แต่ก็หาที่มาของกลิ่นไม่พบ จนกระทั่งเมื่อเช้าได้กลิ่นเหม็นแรงมากออกมาจากห้องที่พบศพ จึงสอบถาม นางเซียะเฮง และขอเข้าไปดูจนพบศพ ตนเองยังแปลกใจว่าทำไม นางเซียะเฮง และลูกสาวไม่ได้กลิ่นเหม็นทั้ง ๆ ที่อยู่ในห้องด้วยกัน
ร.ต.ท.หญิง ภัทรวดี กล่าวว่า เบื้องต้นทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิตของนายพรชัย ส่วนหลักฐานที่พบนั้นจะเป็นกัญชาหรือไม่ก็ต้องส่งไปตรวจสอบ หลังจากนี้จะส่งศพไปตรวจที่สถาบันนิติเวช รพ.รามาธิบดี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนส่งมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป.
