ไม่ใช่อุบัติเหตุ!จับหนุ่มป่วยเผาบ้านวอด7หลัง-เอาผิดยาก
ข่าวประจำวัน
จากกรณี เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 3 ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ทำให้วอดเสียหายมากน้อยแตกต่างกันไปรวม 7 หลัง ก่อนที่ นางจิราภรณ์ สว่างแจ้ง บ้านเลขที่ 37 ซึ่งเป็นหนึ่งในบ้านที่ถูกเพลิงลุกลามมาถึงจะแสดงความมีน้ำใจยอมให้เจ้าของบ้านต้นเพลิงและบ้านอื่นๆที่วอดทั้งหลังมาพักอาศัยได้ชั่วคราวจนกว่าบ้านจะซ่อมแซมเสร็จ เบื้องต้นคาดว่าอาจเป็นไฟฟ้าลัดวงจรแต่ยังไม่รู้ว่าเริ่มมาจากจุดใด
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 3 มี.ค. เหตุดังกล่าวไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่กลับกลายเป็นเหตุวางเพลิง โดย พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักมะกุล ผบก.อ่างทอง เปิดเผยว่า ตอนนี้ตำรวจได้จับกุมคนวางเพลิงได้แล้วคือ นายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี หรือสมญานามที่ชาวบ้านเรียกคือ "ชาย บางพลับ" ซึ่งผู้ต้องหาแอบไปซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นมะม่วงไม่ห่างจุดวางเพลิงมากนัก พร้อมของกลาง ไฟแช็ก ขวดน้ำมัน แต่พอคุมมาสอบปากคำเจ้าตัวกลับให้การวกวนไปมา แต่ก็ยอมรับว่าเป็นคนวางเพลิงเอง สาเหตุเพราะไม่พอใจคำพูดของคนบางคน ที่สำคัญพอเอาไปตรวจปัสสาวะก็พบว่ามีสารเสพติดด้วย
ต่อมา น.ส.เพ็ญประภาภรณ์ วงศพิลา อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของบ้านที่วอดเสียหาย พอรู้ว่าตำรวจจับคนวางเพลิงได้ก็รีบมาดูหน้า ปรากฏว่าเมื่อมาถึงและพบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสมชาย ก็เริ่มร่ำไห้และปรี่เข้าไปชี้หน้าด่าทอนายสมชายทันทีเนื่องจากทั้งคู่เป็นเครือญาติกัน ทำนองว่า มันทำเกินไป คนอื่นเดือดร้อนมาก ปกติเวลาอาละวาดไม่มีใครถือโทษโกรธเคือง แต่แบบนี้มันรุนแรงเกินไป แต่นายสมชายก็ไม่มีทีท่าจะสลดและยังพูดวกวนตลอดเวลาอีก
สำหรับผู้ที่บ้านถูกเผาตอนนี้ยังคงอยู่ในอาการตกใจและนั่งเฝ้าทรัพย์สินไม่ห่าง บางรายก็สำรวจทรัพย์สินที่คิดว่าน่าจะหลงเหลืออยู่ในซากบ้าน โดยสรุปเหตุคือบ้านเสียหาย 7 หลัง จยย.6 คัน และที่ชาวบ้านเป็นห่วงกับกังวลใจคือจะเอาผิดกับคนที่ป่วยทางจิตเวชได้อย่างไร
ขณะที่ บิดาของนายสมชาย ก็รับไม่ได้กับการกระทำของลูกชาย ระบุว่าไม่คาดคิดว่าลูกชายจะทำอย่างนี้ ปกติตนไม่ได้อยู่ที่บ้านเพราะต้องไปทำงานที่สระบุรี ส่วนลูกป่วยเป็นโรคจิตเวชด้วยเคยเข้ารักษาที่ รพ.แห่งหนึ่ง แต่หลังจากกลับมาก็ไม่ได้กินยาควบคุมเลย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง...
ใจงาม!สาวบ้านถูกไฟลุกลาม ยอมให้'บ้านต้นเพลิง'อยู่ด้วย