ข่าวคนไข้งงรพ.เอกชนคิดค่ายา แค่ท้องเสียโดนโขกไป3หมื่น - kachon.com

คนไข้งงรพ.เอกชนคิดค่ายา แค่ท้องเสียโดนโขกไป3หมื่น
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. เดลินิวส์ออนไลน์ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติผู้ป่วยรายหนึ่ง หลังเข้ารับการรักษาด้วยอาการท้องเสียและอาเจียนที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังย่านรามอินทรา แต่ปรากฏว่าค่ารักษาพยาบาลสูงถึง 30,000 บาท จึงเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เนื่องจากรู้สึกว่าค่าบริการดังกล่าวไม่เป็นธรรม พร้อมกับวอนเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบในเรื่องนี้

โดย คุณแพท อายุ 51 ปี ผู้ป่วยซึ่งเป็นคนไทยถือสัญชาติอเมริกัน เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากตนได้ทานผัดสปาเก็ตตี้ที่ทำเอง จนเกิดอาการปวดท้องจึงต้องทานยาซึ่งซื้อมาจากร้านขายยา ผ่านไป 5 นาทีกลับมีอาการเวียนศีรษะ อาเจียน และมีปัสสาวะปนเลือดออกมา จึงรีบเดินทางมาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด และเป็นโรงพยาบาลที่เคยตรวจสุขภาพประจำทุกปี น่าจะไม่ยุ่งยากเพราะมีประวัติเดิมอยู่แล้ว แต่ไม่คาดว่าแพทย์จะให้แอดมิท โดยในระหว่างที่กำลังรอพบแพทย์ได้อาเจียนซ้ำอีกรอบ พยาบาลจึงต้องรีบให้น้ำเกลือ 2 ถุง และภายหลังได้แจ้งค่าห้องคืนละ 1,700 บาท รวมอาหาร 3 มื้อแล้ว 3,640 บาท/คืน ตนเห็นว่าไม่แพงนักจึงได้นอนค้าง 1 คืน โดยจะมีพยาบาลคอยเดินมาตรวจวัดความดันอยู่เป็นระยะ กระทั่งรุ่งเช้าแพทย์อีกคนเข้ามาถามคำถามเดิมๆ และสรุปว่ากรดในกระเพาะมากเกินไป เกิดการติดเชื้อจนเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ พร้อมกับแนะนำว่าให้นอนพักอีก 1 คืน ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินสอบถามว่ามีประกันหรือไม่ จึงแจ้งไปว่าถือสัญชาติอเมริกัน มีประกันชีวิตครบถ้วน โดยที่แจ้งไปไม่ได้คิดอะไร



“วันที่ 2 ก็ไม่ได้มีการรักษาอะไรพิเศษนะค่ะ นอกจากวัดความดัน ดิฉันจึงออกจากโรงพยาบาลราวๆ 11.00 น. ทางโรงพยาบาลแจ้งค่าใช้จ่าย 3 หมื่นบาทจึงตกใจมาก ทำไมมันเยอะขนาดนั้น จึงสอบถามจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เพราะปกติตามโปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี ค่าตรวจปัสสาวะเพียงครั้งละ 189 บาท แต่ต้องจ่ายถึง 940 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตอบว่าใช้วิธีเดียวกันเก็บและห้องตรวจเดียวกัน แล้วทำไมราคาถึงสูงกว่ากัน ส่วนค่าน้ำเกลือ รวม 4 ถุง ราคาถุงละ 1,000 บาท เป็นน้ำเกลือที่แพงมาก ดิฉันคิดว่าเหมือนเป็นการขโมยเงินคนไข้ชัดๆ เราไม่ได้โวยวายเพื่อไม่ยอมจ่าย แต่เราเรียกร้องความเป็นธรรม คนในสังคมจะได้รู้ว่าจะพบเจอค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง” ผู้ป่วยรายนี้ กล่าว

คุณแพท ยังระบุอีกว่า ตนไม่คาดคิดว่าการเดินทางมาเยี่ยมญาติที่ประเทศไทยครั้งนี้จะได้พบเจอกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยวิธีที่ตนคิดว่าเป็นธรรมแก่คนไข้ทุกคนนั้น ทางโรงพยาบาลควรชี้แจงรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าค่าบริการส่วนอื่นๆ นั้น จะเพิ่มขึ้นกี่บาทเมื่อต้องจ่ายจริง ในต่างประเทศโรงพยาบาลจะแจ้งยอดรวมให้ทราบตั้งแต่เริ่มรักษา แต่ที่ไทยมักแจ้งเพียงราคาเริ่มต้นจึงไม่ทราบเพดานค่าบริการว่าจะสูงมากเพียงใด อย่างไรก็ตาม ได้เตรียมเข้าร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หวังให้เป็นเป็นอุทาหรณ์และข้อเตือนใจสำหรับคนไข้อีกหลายคน.