ข่าวหนุ่มเมาชนวอด80ล้านร่ำไห้ กราบเท้าขออภัยเจ้าของร้าน - kachon.com

หนุ่มเมาชนวอด80ล้านร่ำไห้ กราบเท้าขออภัยเจ้าของร้าน
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
จากกรณี รถเก๋งพุ่งชนร้านบางกอกลิฟวิ่งมอลล์ ซึ่งเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กลางดึกคืนวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา และเกิดไฟลุกไหม้รถเก๋งก่อนลามไหม้ร้านเฟอร์นิเจอร์หมดทั้งหลัง ค่าเสียหายประมาณ 80 ล้านบาท  ขณะที่ทางเจ้าของร้านได้เข้าพบนายอำเภอหาดใหญ่ เพื่อปรึกษาเรื่องค่าเยียวยาจากภาครัฐ ปรากฏว่าไม่อยู่ในระเบียบที่จะได้รับการเยียวยาได้ ในขณะที่คนขับรถเก๋งได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว และยอมรับกับตำรวจแล้วว่าดื่มเบียร์หลับใน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 23 ก.พ.ที่สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทางพนักงานสอบสวน ได้นัดคู่กรณี ทั้งสองฝ่ายมาพบกันเป็นครั้งแรก เพื่อเจรจาเรื่องค่าเสียหาย  โดยนายพฤหัส แซ่จิว อายุ 26 ปี หรือ แบงค์ หนุ่มที่ขับรถชนร้านเฟอร์นิเจอร์  ได้มาพร้อมกับพ่อและแม่ และยังอยู่ในอาการบาดเจ็บ มีผ้าพันแผลที่ใบหน้า และที่คิ้วซ้ายที่จมูก และที่มือ รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัย พร้อมกับเตรียมดอกไม้มาขอขมาเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแต่วินาทีที่สร้างความประทับใจและซึ้งใจ ให้กับผู้อยู่ในเหตุการณ์ คือ เมื่อนายอัชอารีย์ วันอับดุลเลาะฮ์ เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ เดินทางเข้ามายังห้องพนักงานสอบสวน และทั้งสองฝ่ายได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก  ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกได้ยกมือไหว้ นายอัชอารีย์ เพื่อขอโทษ โดยเฉพาะ นายพฤหัส กับ นางนงลักษณ์ แซ่จิว ผู้เป็นแม่ ถึงกับทรุดตัวก้มลงกราบเท้า นายอัชอารีย์ และร่ำไห้พร้อมกับคำขอโทษตลอดเวลา 



ด้านนายอัชอารีย์  ได้รับคำขอโทษ และพยายามที่จะพยุงร่างของทั้งสองแม่ลูกขึ้นมา ด้วยใบหน้าที่ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และยังบอกว่าได้ให้อภัย ตั้งแต่วันแรกแล้วไม่เคยถือโทษโกรธแค้น และความผิดพลาดทั้งหมดก็ได้เกิดขึ้นมาแล้ว และหาวิธีแก้กันต่อไป และบอกให้นายพฤหัส รวมทั้งพ่อและแม่ ไม่ต้องเครียด และให้อภัยทุกคนด้วยความเต็มใจ และนายพฤหัส ก็ได้มอบพวงมาลัยดอกมะลิ เพื่อแสดงความขอโทษด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ด้านนายพฤหัส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตัวเองเครียดมาก ทำอะไรไม่ถูกและที่ผ่านมาก็คิดที่จะมาพบ และขอโทษแต่เครียดมากไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร   และขออภัยทุกอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นได้อย่างไร



ด้านนายอัชอารีย์  กล่าวว่า การที่น้องและครอบครัวมาขอโทษตนเอง ก็อภัยให้ด้วยความเต็มใจ  ส่วนเรื่องของความเสียหายหลังจากนี้ ก็จะคุยกันว่าตัวน้องและครอบครัวจะว่าอย่างไร ซึ่งตนเองก็พร้อมที่จะเจรจาตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนเรื่องของการอภัยก็อภัยให้หมดแล้ว เพราะความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ส่วนของเรื่องค่าเสียหายจำนวน 80 ล้านบาทนั้น ก็จะคุยกันก่อนว่าทางครอบครัวนี้ มีความสามารถที่จะจ่ายได้แค่ไหน แล้วค่อยมาว่ากัน  ซึ่งเราอยู่ในโลกใบเดียวกันก็เหมือนอยู่บ้านเดียวกัน

ส่วนทางคดีพนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดี นายพฤหัส ใน 2 ข้อหาคือ ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย และขับรถขณะเมาสุรา ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและจะคุมตัวส่งฟ้องศาลในวันที่ 25 ก.พ.วันนี้นอกจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะมาพบและคุยกันเรื่องค่าเสียหายแล้ว ยังมีเจ้าของร้านเหล็กที่อยู่ติดกันซึ่งได้รับความเสียหายราว 1.5 ล้านบาท ก็มาเจรจาเรื่องค่าเสียหายด้วย