'สาวรับเหมา'ติดป้ายทวงหนี้'ผอ.' อ้างแค้นใจเบี้ยวจ้าง5ล.
ข่าวประจำวัน
นางวิจิตรา กล่าวอีกว่า ตนเป็นเพียงผู้รับเหมาเล็กๆ ทำงานก่อสร้างโครงการเล็กๆ หาเช้ากินค่ำ ต้องดูแลชีวิตคนงานกว่า 40 คน แต่กลับมาถูกรังแก ซึ่งเรื่องดังกล่าวที่ผ่านมา ตนได้เข้าขอความเป็นธรรมไปยังหลายหน่วยงานให้ช่วยเหลือ โดยเดินทางไปจนถึงสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งมีเพียงผวจ.กาฬสินธุ์ และสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์เท่านั้นที่ให้การช่วยเหลือ โดยการช่วยเหลือเรื่องทนายความสู้คดี และดำเนินการด้านกฎหมายในการฟ้องศาลปกครอง ซึ่งจะต้องใช้เวลานาน ส่วนหน่วยงานที่เป็นต้นสังกัดของโรงเรียนดังกล่าว ทั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ (สพม.24) และสำนักงานศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ ยังไม่ได้ดำเนินการช่วยเหลือแต่อย่างใด จนเวลาผ่านล่วงเลยมาแล้วมากกว่า 3 ปี ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข จนทำให้ขณะนี้ครอบครัวของตนเป็นหนี้เป็นสินท่วมหัว ดังนั้นจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ด้วย เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน และหากปล่อยไว้ บ้าน ที่ดิน รวมทั้งทรัพย์สินต่างๆ ที่สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนมาทั้งชีวิต คงจะถูกธนาคารยึดไปเหมือนที่นาอย่างแน่นอน
ด้าน นายเอกรักษ์ สารปรัง ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กมลาไสย กล่าวยอมรับว่า โรงเรียนเป็นหนี้ผู้รับเหมาจริง ซึ่งเป็นค่าก่อสร้างจำนวนเงินประมาณ 15 ล้านบาท โดยเรื่องดังกล่าวเป็นโครงการที่เกิดขึ้นในช่วงปี 58 ตั้งแต่ผู้อำนวยการคนเก่า ส่วนตนนั้นได้เข้ามารับตำแหน่งเมื่อช่วงเดือน พ.ย. 59 ซึ่งเมื่อปี 58 ทางโรงเรียน โดยผู้อำนวยการคนเก่าได้ว่าจ้างช่างทำรับเหมาประมาณ 10 ราย มาปรับปรุงโรงเรียนหลายโครงการ เป็นเงินกว่า 15 ล้านบาท แต่เมื่องานแล้วเสร็จ ซึ่งเกินงบประมาณ จึงไม่มีเงินจ่าย จนทำให้ผู้รับเหมาไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ สพม.24 และล่าสุดไปติดป้ายทวงเงินที่บนสะพานลอยกลางเมืองกาฬสินธุ์
นายเอกรักษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้นทาง สพม. 24 ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว และทางโรงเรียนก็พยายามใช้จ่ายอย่างประหยัด เพื่อที่จะนำเงินที่เหลือจากโครงการต่างๆ ทยอยใช้หนี้ให้กับผู้รับเหมาปีละประมาณ 1 ล้านบาท ตามสัดส่วนของแต่ละราย ทั้งนี้ เนื่องจากทางโรงเรียนมีงบประมาณแต่ละปีประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งจะต้องนำไปพัฒนาการเรียนการสอนและคุณภาพด้านการศึกษาเป็นหลัก เพื่อไม่ให้กระทบกับเด็กนักเรียน ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงมีจำเป็นที่จะต้องทยอยใช้หนี้ได้เพียงปีละ 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในปี 62 นี้ทางโรงเรียนกำลังปรึกษากับคณะกรรมการโรงเรียน เพื่อที่จะเพิ่มการใช้หนี้เป็น 1.5 ล้านบาท เนื่องจากมีความเห็นใจผู้รับเหมาที่ก่อสร้างทำงานเสร็จแล้วกลับไม่ได้เงิน และพยายามมาทวงถามพูดคุยหลายคนถึงกับร้องไห้ แต่ทางโรงเรียนก็ยืนยันว่าสามารถจ่ายได้แค่นี้ เพราะหากจ่ายมากกว่านี้จะทบต่อการพัฒนาด้านการศึกษาของนักเรียน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง..
สาวโม่งดำโผล่ติดป้ายทวงหนี้ผอ.กลางเมืองกาฬสินธุ์