'รักอมตะ' ตา89ผูกคอตาย หลังยายล้มหัวฟาดพื้นดับ
ข่าวประจำวัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ห้องครัวในบ้านหลังดังกล่าวพบศพ นางบุญมา ศิริวัฒน์ อายุ 82 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายจรูญ สภาพสวมเสื้อคอกระเช้าลายดอกสีน้ำเงิน นุ่งผ้าถุงสีน้ำตาล นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ข้างซิงค์ล้างจาน ที่บริเวณหลังศีรษะมีบาดแผลแตกยาวประมาณ 5 ซม. ใกล้กันพบเหล็กข้ออ้อยยาว 70 ซม.วางพิงฝาผนังไว้จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้งคู่ส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลพุทธชินราช
จากการสอบสวนนางสุภาพ ธรรมมา อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านที่พบศพเป็นคนแรก ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าประมาณ 07.30 น. ตนเองได้ออกมาจากบ้านพักเพื่อมานำเสื้อผ้าของลูกค้าที่อยู่ละแวกดังกล่าวไปซักเนื่องจากประกอบอาชีพรับจ้างซักผ้า กระทั่งเดินผ่านหน้าบ้านหลังเกิดเหตุพบว่านายจรูญผูกคอเสียชีวิตอยู่กับราวบันได ด้วยความตกใจทำอะไรไม่ถูกจึงรีบไปแจ้งญาติของผู้เสียชีวิตที่อยู่ใกล้กันให้รับทราบก่อนจะพบว่านางบุญมาก็เสียชีวิตเช่นกันอีกศพอยู่ข้างบนบ้าน ซึ่งล่าสุดได้พบเห็นสองตายายเมื่อช่วงเย็นวานที่ผ่านมา โดยเห็นนายจรูญกำลังนำผ้าถุงของภรรยามาตากแดด ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดเรื่องสลดหดหู่ใจเช่นนี้
ด้าน พ.อ.ท.นคร จีนใจตรง หัวหน้าฝ่ายปกครองเทศบาลนครพิษณุโลก และเป็นหลานชายของผู้เสียชีวิต ให้การว่า คุณตาจรูญ และคุณยายบุญมา ได้มาปลูกสร้างบ้านบนที่ดินผืนดังกล่าวได้ประมาณ 2 ปี ส่วนลูกๆ แยกย้ายไปทำงานอยู่ที่ กทม. แต่จะมีญาติพี่น้องหลานๆ ละแวกนี้คอยช่วยดูแลบ้าง ขณะนี้ลูกๆ ก็ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วกำลังเดินทางมาทำพิธีทางศาสนา ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากคุณตาจรูญซึ่งรักคุณยายบุญมามากๆ ได้ใช้ชีวิตอยู่อาศัยร่วมกันมาโดยตลอด ทุกวันคุณยายจะเป็นคนลุกมาหากับข้าวกับปลาให้คุณตากินตอนประมาณตี 4 ของทุกวัน แต่วันนี้ระหว่างที่ลุกมาเตรียมกับข้าวอาจจะเกิดหน้ามืดวูบเป็นลมล้มหัวฟาดกับซิงค์ล้างจานจนเสียชีวิต เมื่อคุณตาตื่นมาเห็นสภาพของภรรยาที่เสียชีวิตจมกองเลือดอาจจะทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียคนรักไปอย่างไม่มีวันกลับ จึงคิดสั้นใช้สายไฟผูกคอตนเองกับเหล็กราวบันไดหน้าบ้านจนเสียชีวิตตามไปอีกราย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อไปตรวจดีเอ็นเอตามหลักนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ส่วนจะเป็นประเด็นการถูกฆาตกรรมอำพรางหรือไม่นั้นยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากสภาพบ้านยังอยู่ในสภาพปกติไม่มีร่องรอยการถูกรื้อค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด ซึ่งจะต้องรอสอบปากคำพยานแวดล้อมรวมถึงกล้องวงจรปิดตามเส้นทางในหมู่บ้านว่ามีบุคคลต้องสงสัยเกี่ยวข้องหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.