กู้ภัยหัวใจเพชรช่วยเจ้าตูบถูกฉมวกแทงเจ็บ(คลิป)
ข่าวประจำวัน
นายวันชัย เปิดเผยว่า เจ้ามีมี่ตัวนี้เป็นสุนัขจรจัด ที่ถูกคนนำมาปล่อยไว้ที่หน้าบ้าน เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา ด้วยความสงสารจึงให้ข้าวให้น้ำกิน หลังเติบโตได้อยู่เฝ้าบ้านมาตลอด ส่วนสาเหตุที่ถูกคนใจร้ายใช้ฉมวกแทงอาจเป็นเพราะตนไม่ได้ใส่ปลอกคอให้ คงจะวิ่งเล่นไปในหมู่บ้าน แล้วไปส่งเสียงร้องเห่าหอนสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้าน จนพวกกลุ่มคนหานก หาหนู จับงูขาย หรือวัยรุ่นบางคน ไม่พอใจจึงแทงด้วยฉมวก หวังจะฆ่าให้ตาย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่โหดร้าย และผิดกฎหมายทารุณกรรมสัตว์ โดยก่อนหน้านี้สุนัขที่เลี้ยงไว้มีทั้งหมด 4 ตัว แต่ถูกคนใจร้ายวางยาเบื่อฆ่าตายไป 1 ตัว คือเจ้ามาม่า เวลานี้จึงเหลือสุนัขเพียง 3 ตัว คือเจ้ามีมี่ เจ้าโมโม่ และเจ้าเวิร์ด แต่ก็ยังไม่วายที่จะถูกคนใจร้ายทำร้ายอีก ส่วนเจ้ามีมี่ หลังจากรักษาบาดแผลหายแล้ว ก็คงจะรับเลี้ยงดูกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในอ.สองพี่น้องมีสุนัขถูกคนใจร้ายแทงด้วยฉมวกบ่อยครั้ง อาทิเมื่อเมื่อ24 พ.ย. 2560 น.ส.สมพิศ บูชา อายุ 50 ปี ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่การพยาบาล รพ.สต.บ้านบางเกล็ด หมู่ 1 ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี แจ้งว่า เจ้าด่าง สุนัขจรจัดเพศเมีย สีขาวดำ อายุ 5 ปี ที่ถูกลูกฉมวกยิงใส่ปักติดคาอยู่ที่สะโพกซ้าย ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์ จ.นครปฐม เขตรับผิดชอบพื้นที่ สภ.บางตาเถร วันที่ 3 ก.ย. 2561 น.ส.ยุพา เชื้อโตหลวง อายุ 59 ปี เลขที่ 13 หมู่ 2 ต.บ้านกุ่ม อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี แจ้งให้ นายสายชล ครุฑใจกล้า อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ทราบว่ามี สุนัข เพศเมีย พันธุ์ไทย สีขาวด่าง อายุประมาณ 2 ปี ซึ่งเป็นสุนัขจรจัด ถูกคนใจร้ายใช้ปืนลูกดอกยิงเสียบที่สะโพกขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนหายใจรวยริน และทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา เขตรับผิดชอบพื้นที่ สภ.บางตาเถร ด้านนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผวจ.สุพรรณบุรี ทราบเรื่องได้สั่งการ นายศูภโชค วณิชชาพลอย ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอสองพี่น้อง นายสายชล ครุฑใจกล้า ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.บ้านกุ่ม เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางตาเถร ให้ดำเนินคดีกับคนใจร้าย ที่ใช้ปืนลูกดอกยิง’เจ้าเอ๋ง’ อย่างทรมานจนตาย นำตัวมาดำเนินคดีในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างสำหรับคนในหมู่บ้าน
ถือว่าเป็นเรื่องที่โหดร้าย และผิดกฎหมายทารุณกรรมสัตว์ ตามมาตรา 20 ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ