'ลูกเต่ามะเฟือง'ชายหาดคึกคัก ฟักออกจากไข่แล้ว48ตัว
ข่าวประจำวัน
Webmaster
2019-02-12 08:15:00
30
Webmaster
2019-02-12 08:15:00
30
-
สนับสนุนเนื่อหา
จากกรณีที่แม่เต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ 118 ฟอง เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.61ที่ผ่านมา หลังจากแม่เต่ามะเฟืองไม่ได้ขึ้นมาวางไข่บริเวณชายหาดคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นานกว่าสิบปี ก่อนจะพบแม่เต่ามะเฟืองอีกตัวขึ้นวางไข่บริเวณ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และกลับมาวางไข่บริเวณหาดคึกคักอีกครั้งเมื่อวันที่ 8 ม.ค.62
เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 ปฏิบัติงานเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองจังหวัดพังงา ของศูนย์เฝ้าระวังฯ หาดคึกคัก ได้ตรวจพบลูกเต่ามะเฟืองได้ฟักตัว และได้ทยอยขึ้นมาบริเวณปากหลุมฟักไข่ที่ 1 เจ้าหน้าที่จึงได้นำลูกเต่าไปพักฟื้นไว้ในกะละมังที่ฆ่าเชื้อแล้ว รอบแรกจำนวน 20 ตัว ก่อนจะนำไปปล่อยลงสู่ทะเล พร้อมเฝ้ารอการขึ้นมาของลูกเต่า จนถึงเวลาสมควรจึงได้ทำการขุดช่วยเหลือลูกเต่ามะเฟืองที่อยู่ภายในหลุม โดยสามารถช่วยมาได้ 29 ตัว มีสภาพอ่อนแอ เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยให้ลูกเต่า ได้พักฟื้นจนแข็งแรง จึงคัดเลือกลูกเต่ามะเฟืองที่แข็งแรงอีก 20 ตัวปล่อยลงสู่ทะเล และรอจนลูกเต่าที่เหลือมีความแข็งแรงจึงทำการปล่อยชุดที่ 3 ลงสู่ทะเลอีก จำนวน 8 ตัว และมีลูกเต่าที่ตาย จำนวน 1 ตัว โดยเจ้าหน้าที่สามารถปล่อยลูกเต่ามะเฟืองได้ทั้งสิ้น 48 ตัว ก่อนที่นักวิชาการจะทำการตรวจสอบหลุม โดยพบว่ามีลูกเต่ามะเฟืองที่ไม่แข็งแรงและเสียชีวิตภายในหลุม 8 ตัว เป็นไข่ที่ไม่ได้รับการผสม 27 ฟองและเป็นไข่ที่จำแนกไม่ได้ ต้องนำกลับไปตรวจสอบที่ ศวทม. จำนวน 5 ฟอง
ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กล่าวว่า สำหรับการฟักตัวครั้งนี้ถือเป็นสัดส่วนที่มีความใกล้เคียงกับธรรมชาติ ส่วนหาเหตุที่ไม่ทำการอนุบาลลูกเต่าก่อนจะทำการปล่อยลงสู่ทะเลนั้น สืบเนื่องจากผลการทดลองอนุบาล และเพาะฟักทั่วโลก ยังไม่มีใครทำสำเร็จเนื่องจากพฤติกรรมการกินอาหารหรือ พฤติกรรมการว่ายน้ำ ประกอบกับเต่ามะเฟือง เป็นสัตว์ที่มีหนังหุ้มเกร็ด จึงทำให้ง่ายต่อการเกิดบางแผล และติดเชื้อจนเสียชีวิต ซึ่งหากเทียบกับการปล่อยลงสู่ธรรมชาติ จะทำให้ลูกเต่ามีโอกาสรอดสูงกว่าการเพราะเลี้ยง ส่วนหลุมฟักที่ 2 คาดว่าจะอีกไม่เกิน 10 วันลูกเต่าจะเริ่มคลานออกมาจากหลุม ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการปรับพื้นที่ เพื่อให้ลูกเต่าที่เกิดสามารถคลานกลับลงสู่ทะเลด้วยตัวเอง
เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 ปฏิบัติงานเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองจังหวัดพังงา ของศูนย์เฝ้าระวังฯ หาดคึกคัก ได้ตรวจพบลูกเต่ามะเฟืองได้ฟักตัว และได้ทยอยขึ้นมาบริเวณปากหลุมฟักไข่ที่ 1 เจ้าหน้าที่จึงได้นำลูกเต่าไปพักฟื้นไว้ในกะละมังที่ฆ่าเชื้อแล้ว รอบแรกจำนวน 20 ตัว ก่อนจะนำไปปล่อยลงสู่ทะเล พร้อมเฝ้ารอการขึ้นมาของลูกเต่า จนถึงเวลาสมควรจึงได้ทำการขุดช่วยเหลือลูกเต่ามะเฟืองที่อยู่ภายในหลุม โดยสามารถช่วยมาได้ 29 ตัว มีสภาพอ่อนแอ เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยให้ลูกเต่า ได้พักฟื้นจนแข็งแรง จึงคัดเลือกลูกเต่ามะเฟืองที่แข็งแรงอีก 20 ตัวปล่อยลงสู่ทะเล และรอจนลูกเต่าที่เหลือมีความแข็งแรงจึงทำการปล่อยชุดที่ 3 ลงสู่ทะเลอีก จำนวน 8 ตัว และมีลูกเต่าที่ตาย จำนวน 1 ตัว โดยเจ้าหน้าที่สามารถปล่อยลูกเต่ามะเฟืองได้ทั้งสิ้น 48 ตัว ก่อนที่นักวิชาการจะทำการตรวจสอบหลุม โดยพบว่ามีลูกเต่ามะเฟืองที่ไม่แข็งแรงและเสียชีวิตภายในหลุม 8 ตัว เป็นไข่ที่ไม่ได้รับการผสม 27 ฟองและเป็นไข่ที่จำแนกไม่ได้ ต้องนำกลับไปตรวจสอบที่ ศวทม. จำนวน 5 ฟอง
ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กล่าวว่า สำหรับการฟักตัวครั้งนี้ถือเป็นสัดส่วนที่มีความใกล้เคียงกับธรรมชาติ ส่วนหาเหตุที่ไม่ทำการอนุบาลลูกเต่าก่อนจะทำการปล่อยลงสู่ทะเลนั้น สืบเนื่องจากผลการทดลองอนุบาล และเพาะฟักทั่วโลก ยังไม่มีใครทำสำเร็จเนื่องจากพฤติกรรมการกินอาหารหรือ พฤติกรรมการว่ายน้ำ ประกอบกับเต่ามะเฟือง เป็นสัตว์ที่มีหนังหุ้มเกร็ด จึงทำให้ง่ายต่อการเกิดบางแผล และติดเชื้อจนเสียชีวิต ซึ่งหากเทียบกับการปล่อยลงสู่ธรรมชาติ จะทำให้ลูกเต่ามีโอกาสรอดสูงกว่าการเพราะเลี้ยง ส่วนหลุมฟักที่ 2 คาดว่าจะอีกไม่เกิน 10 วันลูกเต่าจะเริ่มคลานออกมาจากหลุม ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการปรับพื้นที่ เพื่อให้ลูกเต่าที่เกิดสามารถคลานกลับลงสู่ทะเลด้วยตัวเอง
