'เด็กไทย'สุดเจ๋ง!บุกแดน'กิมจิ' คว้าแชมป์K-POPโลก
ข่าวประจำวัน
สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย สำหรับงาน "K-Pop World Festival 2018" ณ เมืองชางวอน ประเทศเกาหลีใต้ ที่เด็กไทยอย่าง "ทีมเด็กหัวการค้า" จาก ม.หอการค้าไทย คว้ารางวัล "Grand Prize" ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดของงานและ "Best boy Group Performance" ซึ่งงานดังกล่าวนั้นเอง เป็นการแข่งโคเวอร์แดนซ์ระดับโลก คัดเลือกผู้เข้าแข่งขันจาก 75 ประเทศ มีจำนวนทีมที่เข้าแข่งขันกว่า 3 พันทีม โดยหาที่หนึ่งของแต่ละประเทศ โดยในการก่อนที่จะเดินทางไปนั้น แต่ละประเทศจะถูกส่งไปแข่งขันในรอบออนไลน์เบื้องต้น เมื่อได้แชมป์ของประเทศตัวเองแต่ละทีมจะไปอยู่ในเว็บไซต์ของการแข่งขันเพื่อให้คนดูทั่วโลกสามารถเข้าไปโหวต จากนั้นจะคัดเลือกผู้เข้ารอบจากประเทศต่างๆ ให้เหลือเพียง 12 ทีม เพื่อที่จะไปชิงชนะเลิศที่ประเทศเกาหลีใต้
โดย นายก่อพงศ์ จงทรัพย์ดำรง หรือไอซ์ นักศึกษาชั้นปีที่4 คณะบริหารธุรกิจ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ ตัวแทน"ทีมเด็กหัวการค้า" ได้เผยผ่าน "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า สำหรับชัยชนะครั้งนี้พวกเราฝึกซ้อมตลอดระยะเวลาที่เราได้ชนะเลิศที่ประเทศไทยจนได้เข้ารอบไปแข่งที่ประเทศเกาหลีเราได้ซ้อมกันหนักมากในทุกๆวัน โดยไม่มีวันไหนหยุดพักเลยต้องแข่งกับตัวเองเพื่อจะสร้างมาตรฐานให้ได้ภายในทีม วึ่งส่วนหนึ่งเราต้องมีใจรักก่อนเพราะถ้าเรารักอะไรเราจะมีความมุ่งมั่นจะไม่รู้สึกเบื่อที่จะทำ และทำสิ่งๆนั้นจนกว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นหัวใจที่สำคัญน่าจะเป็นเรื่องทำในสิ่งที่รักมากกว่า โดยประสบการณ์การแข่งขันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ส่วนแรกจะเป็นความสนุกในโชว์มากกว่า ส่วนอีกส่วนที่เป็นท่าเต้นก็จะเน้นความพร้อมเป็นหลัก สำหรับการแข่งขันในประเทศเกาหลี เขาจะดูความเป็นศิลปินมากกว่าที่เมืองไทยมอง แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ให้ความสำคัญกับตรงนั้นเลย เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเกาหลีก็จะมองเรื่องความสามารถในการถ่ายทอด สื่ออารมณ์ความหมายของเพลงมากที่สุด
"หัวใจสำคัญจริงๆของการเต้นโคเวอร์แดนซ์มันทำให้เราได้เพื่อน ได้เต้นร่วมกันกับเพื่อน ได้อยู่กับเพื่อน และผ่านอะไรด้วยกันมา ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำให้เรารู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ เป็นทั้งพี่ ทั้งน้อง นอกจากนี้ การที่เราต้องศึกษาและฝึกฝนเยอะมาก เพื่อที่จะให้เราเข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร พอเราเข้าใจกับมันแล้วมันจะทำให้เรามีการพัฒนาเต้นได้เร็วขึ้น และยังทำให้เราต่อยอดไปในเรื่องต่างๆ ได้ เพราะถ้าเราเข้าใจอะไรต่างๆ ง่ายขึ้น เราก็สามารถเข้าใจเรื่องอื่นๆได้ง่ายขึ้นเช่นกัน" ตัวแทนทีมเด็กหัวการค้ากล่าวทิ้งท้าย...