ข่าวพริตตี้โคม่าล่าสุดติดเชื้อหนัก รอหมอชี้เหตุปมนวดช็อก! - kachon.com

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ความคืบหน้ากรณี นายบุญมี เกษเกษี อายุ 56 ปี ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณี น.ส.วิราวรรณ เกษเกษี อายุ 26 ปี ลูกสาว ซึ่งเป็นพริตตี้และตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน ไปใช้บริการนวดแผนโบราณแต่เกิดช็อกหมดสติและแท้งลูก ส่วนตัวเองเซลล์สมองตายกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรานั้น ล่าสุด พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปตรวจร้านนวดที่เกิดเหตุ ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ โดยพบว่าร้านนวดดังกล่าวเป็นของชมรมผู้สูงอายุ มีใบอนุญาตประกอบกิจการนวดแผนไทยและแผนโบราณ รวมทั้งใบรับรองมาตรฐานสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณเคาร์เตอร์ของร้านมีป้ายแจ้งผู้มารับบริการนวด ต้องแจ้งปัญหาสุขภาพก่อนโดยโรคที่มีความสุ่มเสี่ยงอาจมีผลกระทบหากรับบริการนวด คือ โรคเบาหวาน ความดันสูงหรือต่ำ เส้นเลือดขอด โรคหัวใจ กระดูกพรุน ตั้งครรภ์ และได้รับการผ่าตัดภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา จากการสอบถามทราบว่าหมอนวดที่เป็นคนนวดให้น.ส.วิราวรรณ หลังเกิดเหตุก็ยังมาทำงานตามปกติ 

จากนั้น พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ได้เดินทางไปยังรพ.ลานนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อเยี่ยมและสอบถามอาการของน.ส.วิราวรรณ ซึ่งยังนอนรักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียู เบื้องต้นแพทย์แจ้งว่าอาการยังโคม่าต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลาอีกทั้งสมองยังเสียหาย และล่าสุดพบว่ามีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจร่วมด้วยต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ต่อมา พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ได้เดินทางไปยังสภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี โดย พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ เปิดเผยว่า หลังญาติไปแจ้งความพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันและรับเป็นคดีไว้แล้ว และได้มีการสอบปากคำหมอนวดและญาติไปแล้วส่วนหนึ่ง จากนี้จะขอดูอาการของผู้ป่วยและขอความเห็นจากแพทย์ผู้ทำการรักษา และทางสาธารณสุข ก่อนจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกัน ซึ่งหากผลทางแพทย์และทางสาธารณสุขระบุว่าผิดอย่างไร เราก็จะดำเนินการตามกฏหมายต่อไปได้ 



ด้านนายอิศรา นานาวิชิต ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ร้านนวดเพื่อสุขภาพที่ผ่านมาตรฐานจะต้องมีข้อกำหนดความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะผู้ใช้บริการที่มีโรคประจำทั้ง 7 โรค สำคัญ อาทิ เบาหวาน ความดัน มะเร็ง ผู้ป่วยหลังผ่าตัด และผู้ที่ตั้งครรภ์ ซึ่งลูกค้าต้องแจ้งให้ทางร้านทราบ แต่ข้อกำหนดนี้เป็นเพียง “ข้อระมัดระวัง” ไม่ใช่ข้อห้ามเด็ดขาด กรณีที่เกิดขึ้นเมื่อปรากฏว่าการให้บริการทั้งสถานประกอบการและหมอนวดถูกต้อง ก็ไม่ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานบริการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 ส่วนในเรืองคดีความที่มีการแจ้งความไว้ เป็นการดำเนินการของตำรวจ  ส่วนสาเหตุการช็อคของผู้รับบริการ ยังอยู่ระหว่างการวินิจฉัยจากแพทย์ของโรงพยาบาล