ข่าวสภาเด็กและเยาวชนจัดคัดเลือก คณะบริหาร-ปธ.คนใหม่ - kachon.com

เมื่อวันที่ 2 ก.พ.รัฐบาลภายให้การนำของพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี   ได้มีนโยบายในการพัฒนาและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในกระบวนการคิดและการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนในรูปแบบของ “สภาเด็กและเยาวชน”  จึงได้เห็นชอบและประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550  และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2560 เมื่อวันที่  13 มิถุนายน  2560
 
จากการประกาศใช้พระราชบัญญัติฯในวันดังกล่าวทำให้กรมกิจการเด็กและเยาวชนร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกรุงเทพมหานคร จัดให้มีสภาเด็กและเยาวชนพร้อมทั้งคณะบริหารใน 4 ระดับ ดังนี้ (1) สภาเด็กและเยาวชนตำบล/เทศบาล ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน (๒) สภาเด็กและเยาวชนอำเภอ/เขต กทม. แล้วเสร็จภายใน     150 วัน (3) สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดและกทม. ให้แล้วเสร็จภายใน 180  และ(4) สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ได้คัดเลือกแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2561 ส่งผลให้มีสภาเด็กและเยาวชนครอบคลุมในทุกพื้นที่ทั้งสิ้น 8,780 แห่ง ประกอบด้วย  สภาเด็กและเยาวชนระดับตำบลและเทศบาล  รวม 7,774 แห่ง  สภาเด็กและเยาวชนระดับอำเภอและเขตกรุงเทพมหานคร รวม 928 แห่ง  สภาเด็กและเยาวชนระดับจังหวัดและกรุงเทพมหานคร รวม 77 แห่ง และ สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย จำนวน 1 แห่ง


 
การดำเนินงานกว่า 1 ปีที่ผ่านมา มีผลการดำเนินงานในหลายมิติ ได้แก่ การจัดเวที “สมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ” เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอการพัฒนาเด็กและเยาวชนต่อรัฐบาล การรณรงค์การป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น การรณรงค์ป้องกันการพนันฟุตบอลออนไลน์  โครงการจิตอาสา  เราทำความดีด้วยหัวใจ / โครงการ พม. เพื่อพ่อหลวง    การจัดโครงการพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก  หรือ กิจกรรมถนนเด็กเดิน เพลิดเพลินวัฒนธรรม นำสื่อสร้างสรรค์ เป็นต้นซึ่งการดำเนินงานดังกล่าว ขับเคลื่อนโดยคณะบริหารของสภาฯในทุกระดับ  โดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ได้กำหนดให้คณะบริหารมีวาระการดำรงตำแหน่ง  2  ปี และเพื่อป้องกันปัญหาช่องว่าง จากความไม่ต่อเนื่องในการบริหารงานจากการหมดวาระ 2 ปีพร้อมกันทั้งคณะนั้น  จึงบัญญัติความในมาตรา 33 วรรค 3 ว่า “เมื่อคณะบริหารสภาเด็กและเยาวชนในทุกระดับดำเนินงานครบ 1 ปี ในวาระเริ่มแรกต้องดำเนินการจับสลากออกกึ่งหนึ่ง ยกเว้นประธานสภาเด็กและเยาวชน และคัดเลือกผู้บริหารใหม่แทนที่ตำแหน่งที่ว่าง  โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกใหม่จะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี ทำให้คณะบริหารอย่างละครึ่ง จะมีวาระการดำรงตำแหน่งที่เหลื่อมกัน 1 ปี

ทั้งนี้กระบวนการการจับสลากออกกึ่งหนึ่ง และการคัดเลือกคณะผู้บริหารใหม่ของสภาเด็กและเยาวชนต้องทำภายใน  60 วัน นับแต่วันที่มีการคัดเลือกคณะบริหารฯ ครบ 1 ปี   ดังนั้น  สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย จึงต้องคัดเลือกคณะบริหารฯแล้วเสร็จภายใน 23 มีนาคม 2562 หรือ ภายใน  60  วัน นับจากวันที่ 20 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันครบ 1 ปี ของการคัดเลือกคณะบริหารสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย โดยในปีนี้สมาชิกได้มีมติเห็นพ้องต้องกันให้มีการจับสลากออกกึ่งหนึ่งและคัดเลือกผู้บริหารใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างในวันที่ 1 กุมภาพันธ์  2562 ณ โรงแรม รอยัล เบญจา  กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีการเลือกตั้ง ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยคนใหม่ แทนคนเก่าซึ่งหมดวาระด้วยอายุเกิน 25 ปี ด้วย


 
ดร.สมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยถือว่าเป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหา ที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมถึงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในภาพรวมของประเทศ  สมาชิกประกอบด้วยประธานสภาเด็กและเยาวชนทั้ง 76 จังหวัด / ประธานสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร และผู้แทนจากกลุ่มเด็กและเยาวชน อีก 38 คน รวมทั้งสิ้น 115 คน   โดยในปีนี้ได้เน้นให้สภาเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ จัดกิจกรรมเพื่อแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น การยุติความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ ต่อต้านคอรัปชั่นและป้องกันยาเสพติด การติดตามดูแลครอบครัวที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และสื่อสร้างสรรค์  และนำเสนอสู่สาธารณชนในรูปแบบของ กิจกรรมถนนเด็กเดิน เพลิดเพลินวัฒนธรรม นำสื่อสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนได้มีเวทีสร้างสรรค์แสดงออกถึงความรู้ ความสามารถและการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น  นวัตกรรมด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน การส่งเสริมและการคุ้มครองเด็กและเยาวชนสู่สังคมที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป