สาวใหญ่หัวใจแทบวาย อยู่ดีๆถูกฟ้องเป็นหนี้เกือบ3แสน
ข่าวประจำวัน
Webmaster
2019-01-28 10:15:00
96
Webmaster
2019-01-28 10:15:00
96
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช นางสุนีย์ คงทอง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148/1 หมู่ 8 ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม และขอความช่วยเหลือ เนื่องจากได้รับหมายเรียกจากศาลแขวงธนบุรี ให้ไปพบเพื่อไกล่เกลี่ยให้การแก้ข้อหาแห่งคดีและสืบพยานในวันที่ 18 ก.พ. ในฐานะเป็นจำเลยที่โดนห้างหุ้นส่วนจำกัด “เซ็งเซียง” เป็นโจทก์ยื่นฟ้องข้อหาหรือฐานความผิด“ซื้อขาย ให้ไปชำระหนี้” จำนวน 292,675 บาท ตามคดีหมายเลขดำที่ ม 1933/2561
ทั้งนี้ ในรายละเอียดบรรยายคำฟ้องระบุว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ่นส่วนจำกัดโดยมี นายสุรัตน์ สุนทรพรศิลป์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โดยจำเลยเป็นลูกค้าของโจทก์ ใช้ชื่อในการสั่งซื้อสินค้าและมีชื่อร้านว่า“วันแอนด์แม็คซ์” ซึ่งเมื่อก.พ.-เม.ย.61 จำเลยได้สั่งซื้อสินค้าประเภทผ้าชนิดต่างๆ จำนวน 10 ครั้ง รวมเป็นเงิน 280,402บาท ซึ่งจำเลยได้เดินทางมาสั่งซื้อสินค้ากับโจทก์ ณ ที่ทำการของโจทก์ เลขที่ 61,62 ซอยเจริญรัถ 30 ถนนเจริญรัถ แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร อยู่ในเขตอำนาจศาลแขวงธนบุรี ซึ่งแต่ละครั้งที่จำเลยสั่งซื้อสินค้าทางโจทก์ตกลงให้เวลาในการชำระหนี้ครั้ง 45 วัน ในสำนวนคำฟ้องยังแนบหลักฐานสำเนาใบส่งสินค้าชั่วคราว ระบุสถานที่ส่งสินค้าร้าน “วันแอนด์แม็คซ์” ในช่องที่อยู่ระบุว่า (เจี๊ยบ) พี่สาวซอยประชาสงเคราะห์ 31 ซึ่งมีผู้เซ็นชื่อรับสินค้าหลาย ๆ ชื่อ เช่น พี่สาว ,บ้อน ,ณัฐวุฒิ เป็นต้น
นางสุนีย์ กล่าวว่า ทันทีที่มีหมายศาลไปปิดที่บ้าน เมื่อเปิดอ่านดูพบว่า ตนตกเป็นจำเลยศาลนัดไปไกล่เกลี่ยให้การแก้ข้อกล่าวหา และสืบพยานในวันที่ 18 ก.พ. 2562 โดยยอดหนี้รวมเป็นเงิน 280,402 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 จำนวน 121,273 บาท รวมหนี้ทั้งหมด จำนวน 292,675 บาท ตนถึงกับทรุดเข่าอ่อนแทบหัวใจวายตาย ยืนยันว่าตนเองไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวข้องใดๆแม้แต่น้อย ตนมีอาชีพรับจ้างล้างจาน มีรายได้ 200-300 บาท ส่วนสามีขับรถสามล้อพ่วง เราทั้งคู่มีฐานะยากจน ที่สำคัญไม่เคยไปกรุงเทพฯมาก่อน เป็นไปไม่ได้ที่จะไปสั่งซื้อผ้าหลายชนิด และไม่รู้จักร้านดังกล่าว หรือตรอกซอกซอย ซึ่งทางโจทก์เขาไปยื่นฟ้องตนต่อศาลได้อย่างไร ตนจึงตัดสินใจร้องขอให้สื่อมวลชนช่วย และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องและคงไม่ไปตามศาลนัด เนื่องจากไม่มีเงินและไปไม่ถูก ซึ่งเรื่องนี้ขอให้โจทก์ไปตรวจสอบให้ชัดก่อนที่จะมาฟ้องตนเอง และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมายช่วยเหลือตนด้วย.
ทั้งนี้ ในรายละเอียดบรรยายคำฟ้องระบุว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ่นส่วนจำกัดโดยมี นายสุรัตน์ สุนทรพรศิลป์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โดยจำเลยเป็นลูกค้าของโจทก์ ใช้ชื่อในการสั่งซื้อสินค้าและมีชื่อร้านว่า“วันแอนด์แม็คซ์” ซึ่งเมื่อก.พ.-เม.ย.61 จำเลยได้สั่งซื้อสินค้าประเภทผ้าชนิดต่างๆ จำนวน 10 ครั้ง รวมเป็นเงิน 280,402บาท ซึ่งจำเลยได้เดินทางมาสั่งซื้อสินค้ากับโจทก์ ณ ที่ทำการของโจทก์ เลขที่ 61,62 ซอยเจริญรัถ 30 ถนนเจริญรัถ แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร อยู่ในเขตอำนาจศาลแขวงธนบุรี ซึ่งแต่ละครั้งที่จำเลยสั่งซื้อสินค้าทางโจทก์ตกลงให้เวลาในการชำระหนี้ครั้ง 45 วัน ในสำนวนคำฟ้องยังแนบหลักฐานสำเนาใบส่งสินค้าชั่วคราว ระบุสถานที่ส่งสินค้าร้าน “วันแอนด์แม็คซ์” ในช่องที่อยู่ระบุว่า (เจี๊ยบ) พี่สาวซอยประชาสงเคราะห์ 31 ซึ่งมีผู้เซ็นชื่อรับสินค้าหลาย ๆ ชื่อ เช่น พี่สาว ,บ้อน ,ณัฐวุฒิ เป็นต้น
นางสุนีย์ กล่าวว่า ทันทีที่มีหมายศาลไปปิดที่บ้าน เมื่อเปิดอ่านดูพบว่า ตนตกเป็นจำเลยศาลนัดไปไกล่เกลี่ยให้การแก้ข้อกล่าวหา และสืบพยานในวันที่ 18 ก.พ. 2562 โดยยอดหนี้รวมเป็นเงิน 280,402 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 จำนวน 121,273 บาท รวมหนี้ทั้งหมด จำนวน 292,675 บาท ตนถึงกับทรุดเข่าอ่อนแทบหัวใจวายตาย ยืนยันว่าตนเองไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวข้องใดๆแม้แต่น้อย ตนมีอาชีพรับจ้างล้างจาน มีรายได้ 200-300 บาท ส่วนสามีขับรถสามล้อพ่วง เราทั้งคู่มีฐานะยากจน ที่สำคัญไม่เคยไปกรุงเทพฯมาก่อน เป็นไปไม่ได้ที่จะไปสั่งซื้อผ้าหลายชนิด และไม่รู้จักร้านดังกล่าว หรือตรอกซอกซอย ซึ่งทางโจทก์เขาไปยื่นฟ้องตนต่อศาลได้อย่างไร ตนจึงตัดสินใจร้องขอให้สื่อมวลชนช่วย และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องและคงไม่ไปตามศาลนัด เนื่องจากไม่มีเงินและไปไม่ถูก ซึ่งเรื่องนี้ขอให้โจทก์ไปตรวจสอบให้ชัดก่อนที่จะมาฟ้องตนเอง และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมายช่วยเหลือตนด้วย.
