นักกฎหมายชี้ช่องต่อสู้คดี กระบะมิตซูดำขยี้หม่องคิดสั้น
ข่าวประจำวัน
Webmaster
2019-01-27 21:50:00
18
Webmaster
2019-01-27 21:50:00
18
-
สนับสนุนเนื่อหา
จากรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปวีดีโอจากเพจเฟซบุ๊ก "หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา" เป็นภาพของหนุ่มชาวเมียนมารายหนึ่ง ทำทีกำลังรอรถวิ่งผ่านไปเพื่อข้ามถนน แต่จังหวะมีรถกระบะขับมาด้วยความเร็ว จึงวิ่งตัดหน้าให้รถชนหวังฆ่าตัวตาย แต่กลับไม่ตายกลายเป็นบาดเจ็บสาหัสแทน ภายหลังกู้ภัยต้องเร่งส่งไปรักษาอาการยัง รพ.กระบี่ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา บนถนนเพชรเกษม ขาเข้าตัวเมืองกระบี่ ตรงข้ามห้างบิ๊กซี ขณะที่รถยนต์คู่กรณีได้ขับผ่านไปโดยไม่ยอมลงมาดู โดยทางตำรวจระบุว่า ถึงเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ผู้ขับขี่ก็มีความผิดฐานชนแล้วหนี เนื่องจากหลังเกิดเหตุไม่ยอมจอดรถลงมาดูหรือให้ความช่วยเหลือ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.นายธนากร ทาคำฟู นักวิชาการด้านกฎหมาย กล่าวกับ “เดลินิวส์ออนไลน์” ถึงกรณีดังกล่าว ว่า สำหรับคนขับรถยนต์ซึ่งมีผู้กระโดดให้รถชนในระยะกระชั้นชิด เมื่อต่อมาไม่ว่าผู้ซึ่งขวางรถนั้นได้รับอันตรายสาหัส หรือ ถึงแก่ความตาย เห็นได้ว่าไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้ขับรถยนต์ แต่เป็นการเข้าเสี่ยงภัย ของผู้ซึ่งต้องการฆ่าตัวตายนั้นเอง คนขับรถยนต์ จะไม่มีความผิดทางอาญาต่อความตายหรือบาดเจ็บของผู้นั้น
“แต่เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น จึงควรจอดรถหยุดและให้การช่วยเหลือ แล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบถึงเหตุที่เกิดขึ้น เพราะเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย หากไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าจะไม่มีความรับผิดทางอาญาต่อความตาย หรือการบาดเจ็บก็ตาม แต่การที่ไม่หยุดรถและขับผ่านไปเลย ก็จะมีความผิดตามกฎหมายจราจร “นายธนาธร กล่าว
ส่วนแนวทางการต่อสู้คดีของคนขับรถมีแนวอย่างไรนั้น นายธนาธร กล่าวว่า ตามกฎหมายจราจรแล้วข้อหาไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ ปกติแล้วไม่ใช่คดีร้ายแรง เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน คาดว่าคนขับน่าจะเกิดความตกใจ หรือกลัวในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าในตอนนั้น จึงขับรถเลยไปตั้งหลัก และตั้งสติก่อน เช่นนี้น่าจะเป็นเหตุผล ที่จะต่อสู้คดีในข้อหาตามกฎหมายจราจรได้ สำหรับความรับผิดตามกฎหมายอาญา ต่อการบาดเจ็บสาหัสของหนุ่มพม่านั้น โดยหลักแล้วคนขับรถกระบะไม่ต้องรับผิด เพราะเป็นการเข้ารับเสี่ยงเอาภัยเอง ของหนุ่มพม่าที่ต้องการฆ่าตัวตาย โดยคนขับรถกระบะไม่ได้ขับรถด้วยการประมาทแต่อย่างใด.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่ากระบะมิตซูดำชนแล้วหนี ตร.ชี้ถึงสุดวิสัยก็ต้องลงมาดู...
ในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.นายธนากร ทาคำฟู นักวิชาการด้านกฎหมาย กล่าวกับ “เดลินิวส์ออนไลน์” ถึงกรณีดังกล่าว ว่า สำหรับคนขับรถยนต์ซึ่งมีผู้กระโดดให้รถชนในระยะกระชั้นชิด เมื่อต่อมาไม่ว่าผู้ซึ่งขวางรถนั้นได้รับอันตรายสาหัส หรือ ถึงแก่ความตาย เห็นได้ว่าไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้ขับรถยนต์ แต่เป็นการเข้าเสี่ยงภัย ของผู้ซึ่งต้องการฆ่าตัวตายนั้นเอง คนขับรถยนต์ จะไม่มีความผิดทางอาญาต่อความตายหรือบาดเจ็บของผู้นั้น
“แต่เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น จึงควรจอดรถหยุดและให้การช่วยเหลือ แล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบถึงเหตุที่เกิดขึ้น เพราะเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย หากไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าจะไม่มีความรับผิดทางอาญาต่อความตาย หรือการบาดเจ็บก็ตาม แต่การที่ไม่หยุดรถและขับผ่านไปเลย ก็จะมีความผิดตามกฎหมายจราจร “นายธนาธร กล่าว
ส่วนแนวทางการต่อสู้คดีของคนขับรถมีแนวอย่างไรนั้น นายธนาธร กล่าวว่า ตามกฎหมายจราจรแล้วข้อหาไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ ปกติแล้วไม่ใช่คดีร้ายแรง เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน คาดว่าคนขับน่าจะเกิดความตกใจ หรือกลัวในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าในตอนนั้น จึงขับรถเลยไปตั้งหลัก และตั้งสติก่อน เช่นนี้น่าจะเป็นเหตุผล ที่จะต่อสู้คดีในข้อหาตามกฎหมายจราจรได้ สำหรับความรับผิดตามกฎหมายอาญา ต่อการบาดเจ็บสาหัสของหนุ่มพม่านั้น โดยหลักแล้วคนขับรถกระบะไม่ต้องรับผิด เพราะเป็นการเข้ารับเสี่ยงเอาภัยเอง ของหนุ่มพม่าที่ต้องการฆ่าตัวตาย โดยคนขับรถกระบะไม่ได้ขับรถด้วยการประมาทแต่อย่างใด.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่ากระบะมิตซูดำชนแล้วหนี ตร.ชี้ถึงสุดวิสัยก็ต้องลงมาดู...
