ข่าว'พ่อคูณ'ช่วยผีเณรป่าเขมร กลับไทยสร้างสาธารณสถาน - kachon.com

จากกรณีคณะศิษยานุศิษย์เคลื่อนย้ายสรีรสังขาร พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) จ.ขอนแก่น ไปทำพิธีขอขมาและสวดพระอภิธรรมที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มข. ร่วมกับครูใหญ่อีก 646 ร่าง ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนเดินทางไปร่วมกราบไหว้จำนวนมากโดยทางมข.กำหนดให้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ และหลวงพ่อคูณ เป็นกรณีพิเศษประจำปีการศึกษา 2561 ระหว่างวันที่ 21 - 30 ม.ค.62 ที่ฌาปนสถานชั่วคราว วัดหนองแวง พระอารามหลวงณ บริเวณด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตามข่าวที่เสนอมาโดยตลอดนั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ถึงเรื่องเล่าปฏิหาริย์ "พ่อคูณ" ธุดงควัตร ลาว-เขมร เข้าพงไพร เจอสิ่งลี้ลับมากมาย ตั้งแต่ผีป่าภูควาย ทุ่งไหหิน แก่งหลี่ผีมหานทีสี่พันดอน ผักตักบาตรผาเลนในลาวใต้ จนเข้าไปช่วยผีเณรในป่าเขมร ที่มรณภาพในป่าลึกให้หลุดบ่วงกรรม โดยเรื่องราวปาฏิหาริย์ของ พระเทพวิทยาคม หรือ ครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตพระเกจิชื่อดังยังเป็นที่กล่าวขานจากผู้ศรัทธามิรู้จบ แม้ท่านจะละสังขารและเตรียมจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุชั่วคราวพุทธมณฑลอีสาน วัดหนองแวง พระอารามหลวง จ.ขอนแก่น ในวันที่ 29 ม.ค. 2562 ที่จะถึงนี้ ด้วยปฏิปทามุ่งมั่นช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากและยึดหลักธรรมปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จึงขอย้อนรอย “การธุดงควัตร” ของท่านระหว่างแสวงหาธรรมะในป่าเขามานำเสนอ เพื่อประกอบคุณความดีและให้ศิษยานุศิษย์รำลึกถึงท่านตลอดไป

โดยภายหลังจากที่หลวงพ่อคูณบุกป่าดงพงไพรปลีกวิเวกจากประเทศไทย เข้าสู่ประเทศลาว เผชิญสิ่งลี้ลับหลากหลาย ตั้งแต่พบผีป่าภูควาย เจอสิ่งลี้ลับทุ่งไหหิน แก่งหลี่ผี มหานทีสี่พันดอน ผีตักบาตรที่ผาเลนในลาวใต้ จนท่านเข้าเขตประเทศกัมพูชา (เขมร) ได้สำแดงปาฏิหาริย์ช่วยวิญญาณสามเณรที่มรณภาพกลางป่าลึกให้หลุดพ้นบ่วงกรรม ผจญไสยเวทย์มนต์ดำหมอผีเขมรด้วยจิตกล้าแกร่งไม่หวั่นไหวและแสดงธรรมโปรดญาติโยมในพื้นที่ทุรกันดารอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย แม้บางครั้งท่านก็ประสบเหตุร้ายหรือป่วยไข้แทบเอาชีวิตไม่รอด แต่ด้วยบุญบารมีที่สั่งสมมา ทำให้รอดพ้นอันตรายกลับประเทศไทยในที่สุด



เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพร หลวงพ่อ ก็กลับมาพำนักที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ประมาณปี พ.ศ.2500 และยามว่างก็เดินทางไปจำพรรษาตามวัดวาอารามหลายจังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศไทย แลกเปลี่ยนวิชาความรู้จากพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมอีกหลายรูปด้วย

หลวงพ่อคูณ มีบุญบารมีสูง ท่านได้นำชาวบ้านพัฒนาวัดบ้านไร่ ก่อสร้างโรงเรียนบ้านไร่ สร้างวิทยาลัยเทคนิค สร้างโรงพยาบาล สถานีอนามัย โรงเรียน สถานีตำรวจ บ้านพักข้าราชการตำรวจ ที่ว่าการอำเภอ ทำถนน โดยใช้ปัจจัยที่ญาติโยมบริจาค นำไปจัดซื้ออุปกรณ์ช่วยชีวิต รถพยาบาล รถดับเพลิง เครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ต่างๆ และช่วยเหลือวัด มูลนิธิต่างๆ ที่ขาดแคลน จนได้รับการสรรเสริญในฐานะ “ผู้มีแต่ให้” และไม่เคยห่วงสิ่งของด้วยเข้าใจสัจธรรมทุกอย่างล้วนไม่จีรังยั่งยืน ใครไปขอสิ่งใดก็ให้หมด ทุกครั้งจะให้อะไรใคร ท่านมักพูดติดปากว่า “กูให้มึง” กลายเป็นวลีประจำตัว

หลวงพ่อคูณ ถวายเงินแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2538 ณ วัดบ้านไร่ จำนวน 72 ล้านบาท และถวายอีกครั้งในวันที่ 18 เม.ย.2551 ณ พระราชตำหนักจิตรลดารโหฐานพระราชวัง รวมจำนวน หนึ่งร้อยล้านบาท ทั้งนี้จากการประเมินทรัพย์สินและปัจจัยที่หลวงพ่อได้ก่อสร้างวัด หน่วยงานราชการและเอกชน เสียสละเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ สาธารณสงเคราะห์ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท สมควรให้จารึกไว้ในฐานะเป็นพระเกจิคณาจารย์ที่มีคุณูปการต่อปวงชนและประเทศชาติของวงการพระสงฆ์ไทย.