ข่าวเด้ง'จร.เชียงใหม่'รับส่วยหนุ่มจีน ผิดจริงโทษถึงไล่ออก! - kachon.com

ในโลกโซเซียลในจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ ความยาว 40 วินาที เป็นคลิปวีดีโอบันทึกพฤติกรรมไม่เหมาะสมของ ดาบตำรวจ นายหนึ่ง ที่เดินทางมาปลดล็อกรถจักรยานยนต์ของนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยรับส่วย 200 บาท เพื่อเป็นค่าปลดล็อคล้อ โดยตำรวจดังกล่าวก็ได้เอาใบสั่งคืนและเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ไม่มีการให้นักท่องเที่ยวที่ทำผิดกฏหมายจราจรของจังหวัดเชียงใหม่ไปเสียค่าปรับแบบถูกต้อง สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับภาพพจน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมากมาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ม.ค. พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ออกหนังสือคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 20/2562 ให้ ดาบตำรวจเชิงชาย วงศ์บุรินทร์พาน ผู้บังคับหมู่ (จราจร) กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม และมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ พร้อมกับมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยหากพบการกระทำความผิดก็จะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด พร้อมกำชับให้คณะกรรมการดำเนินการด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป นอกจากนี้ยังได้มีการมอบหมายให้ พ.ต.อ.ไพศาล นันตา รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ผู้รับผิดชอบงานศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พิจารณามอบหมายหน้าที่ และกำหนดให้มีผู้รับผิดชอบ ควบคุม กำกับ ดูแล ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 1212/2537 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2537 เรื่อง มาตราการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าชการตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2562 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

พ.ต.อ.ไพศาล เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ในวันนี้ตนได้มีการเรียกเจ้าหน้าที่กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เข้าประชุม พร้อมทั้งยังได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนาย ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด และอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เนื่องจากเป็นการทำลายภาพพจน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมาก ทั้งนี้ หากมีการจับปรับ จะต้องให้ไปเสียค่าปรับที่ศูนย์จราจรเท่านั้น เพื่อเป็นการลบคำครหา ส่วนในเรื่องของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการตั้งณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวถือว่าเป็นการทำผิดวินัยร้ายแรง จึงจะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานมาทำการพิจารณา โปร่งใส และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งคาดว่าะใช้เวลาประมาณ 30 วันจึงจะได้ข้อสรุป ทั้งนี้หากพบว่าเจ้าหน้าที่มีความผิดจริง จะมีโทษถึงขั้นไล่ออกจากราชการ.



ข่าวที่เกี่ยวข้อง..

สุดฉาวคลิปจร.เชียงใหม่รับส่วยหนุ่มจีนปลดล็อกจยย.