ข่าวสอบลึก'ลักเงินสหกรณ์ครู' ปัดเอี่ยววุ่น'ปล่อยกู้เกินวงเงิน' - kachon.com

สอบลึก'ลักเงินสหกรณ์ครู' ปัดเอี่ยววุ่น'ปล่อยกู้เกินวงเงิน'
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
จากกรณี นางเยาวลักษณ์ ภูชุม อายุ 34 ปี ครูวิทยฐานะชำนาญการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย นางไสว บรรลือเสียง อายุ 60 ปี มารดา เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด แต่ถูกนายหน้าที่เป็นข้าราชการครูหญิงหักหัวคิวค่าดำเนินการ 13% ก่อนถูกปลอมเอกสารเบิกเงินไปถึง 1,580,300 บาท กระทั่งนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 ม.ค. นายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า ได้เชิญเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายไปให้ปากคำทีละคน พร้อมทั้ง นางเยาวลักษณ์ ด้วย ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอ้างว่าได้ดำเนินการไปตามบทบาทหน้าที่โดยการบริการลูกค้าและสมาชิก ซึ่งคณะกรรมการได้รับฟังไว้และคงยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากการที่ นางเยาวลักษณ์ สามารถกู้เงินได้มากถึง 2 ล้านบาท ทั้งที่ ตรวจสอบแล้วหลักเกณฑ์ต่างๆ และเงินเดือนไม่สามารถกู้เงินได้มากถึง 2 ล้านบาท ขณะที่ข้าราชครูหญิงคนดังกล่าวกลับนำเอกสารเข้ามาขอกู้เงินกับสหกรณ์ได้ถึง 2 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ทั้งเอกสารต่าง ๆ ในการเบิกเงินกู้ออกไป โดยเฉพาะสมุดบัญชี ใบมอบฉันทะ และใบแสดงตัวตนของผู้มอบฉันทะจนนำไปสู่การเบิกเงิน ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องรู้เห็น แต่หากเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ กระบวนการดังกล่าวจะต้องรอผลการพิสูจน์เทียบลายมือชื่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ว่าแท้จริงแล้วไปลายมือใคร และใครเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งหากตรวจสอบแล้ว พบว่าใครเกี่ยวข้องจะดำเนินการทันที



นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบความผิดปกติและข้อบกพร่องหลายอย่าง โดยเฉพาะการไม่ปฏิบัติการตามระเบียบในการพิจารณาปล่อยเงินกู้ของสหกรณ์ คือเจ้าหน้าที่มีการอนุมัติและปล่อยเงินกู้ให้กับสมาชิกเกินวงเงินที่สมาชิกสามารถกู้ได้ คือการปล่อยกู้ไม่ผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการที่มีอำนาจหน้าที่ต้องอนุมัติเงินกู้ตามระเบียบ ซึ่งการดำเนินการอนุมัติดังกล่าว หากสมาชิกผู้ขอกู้เงินสามารถกู้เงินเกินขีดความสามารถในการส่งหรือผ่อนชำระหนี้ ก็จะส่งผลให้การติดตามทวงหนี้ยากลำบากมากขึ้น กลายเป็นหนี้เสีย และอาจจะสร้างความเสียหายในกับสหกรณ์ในอนาคตได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะต้องขยายผลไปว่าใครเป็นคนทำ และอยู่เบื้องหลัง ซึ่งทางคณะกรรมการจะต้องให้ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเข้าตรวจสอบว่ามีการปล่อยเงินกู้และอนุมัติในรูปแบบลักษณะดังกล่าวที่ไม่ปฏิบัติการตามระเบียบไปเป็นจำนวนเงินมากน้อยเพียงใด และมีจำนวนสมาชิกที่กู้ไปเท่าไหร่ก่อนที่จะนำข้อมูลดังกล่าวรายไปยังผู้บังคับบัญชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนของข้าราชการ 2 คน ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งข้าราชการครูหญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนายหน้า และรองปลัดเทศบาลตำบลนั้น หากมีการตรวจสอบแล้วพบว่ามีเกี่ยวข้องก็จะต้องส่งเรื่องไปยังต้นสังกัดเพื่อดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย และในส่วนคดีคดีอาญาก็จะต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน สำหรับในส่วนของนางสาวเยาวลักษณ์นั้น เบื้องต้นได้ประสานกับทางคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาในการชะลอการชำระหนี้ที่ถูกหักเงินเดือนผ่านบัญชีในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงออกไปก่อนแล้ว.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อเมืองน้ำดำสั่งตั้งกก.สอบ ลักเงินกู้สหกรณ์ครู1.6ล้าน
หมายเรียก'ครู-ปลัดทต.' คดีลักเงินสหกรณ์ครู1.6ล้าน
ครูสาวแฉเงินกู้สหกรณ์1.6ล้าน ล่องหนมือดีถอนเกลี้ยง