พ่อเมืองน้ำดำสั่งตั้งกก.สอบ ลักเงินกู้สหกรณ์ครู1.6ล้าน
ข่าวประจำวัน
Webmaster
2019-01-19 10:05:00
20
Webmaster
2019-01-19 10:05:00
20
-
สนับสนุนเนื่อหา
จากกรณี นางเยาวลักษณ์ ภูชุม อายุ 34 ปี ครูวิทยฐานะชำนาญการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พร้อม นางไสว บรรลือเสียง อายุ 60 ปี มารดา เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากขอกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์จำกัด จำนวน 2,000,000 บาท แต่ถูกนายหน้าที่เป็นข้าราชการครูหักหัวคิวค่าดำเนินการ 13 เปอร์เซ็นต์ และหักเป็นค่าหุ้น 419,700 บาท เหลือ 1,580,300 บาท ภายหลังยังถูกปลอมแปลงเอกสารเบิกเงินกู้ไปจนหมดบัญชี จนตัวเองต้องเป็นหนี้สินแต่ไม่ได้เงินสักบาท ซึ่งทางตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้อง 2 ราย คือครูสาวและปลัดเทศบาลตำบลฯ มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ทั้งสองกลับขอเลื่อนไปก่อนทำให้ตำรวจต้องออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และหากไม่มีก็จะออกหมายจับ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 ม.ค. นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการในส่วนของ จ.กาฬสินธุ์ ขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมี นายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รองผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานการตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริง พร้อมหาแนวทางการช่วยเหลือหลังจากถูกหักค่าหัวคิว และเบิกเงินออกไปใช้จำนวนมาก ทั้งนี้มีการเรียก นางเยาวลักษณ์ เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแล้ว ซึ่งคณะกรรมการจะเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องตามสถานะและพฤติการณ์ว่าใครมีความผิดอะไรและเกี่ยวข้องบ้าง โดยเฉพาะทางคดีอาญาก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ใครเป็นราชการและเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการทางวินัย สำหรับในส่วนของความเสียหาย เนื่องจากว่าเป็นการกู้ยืมเงินแต่คนที่กู้กลับไม่ได้รับเงินผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องมารับผิดชอบทางแพ่ง ซึ่งหากพบว่าผู้ใดมีการกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดอย่างเด็ดขาดทันที
ขณะที่ พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และ พ.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสินธ์ พงส.เจ้าของคดี ได้เดินทางเข้าขอเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการกู้เงินและเอกสารเกี่ยวกับการเบิกเงินของนางสาวเยาวลักษณ์ รวมทั้งเอกสารจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ ฝ่ายการเงิน ผู้อนุมัติเงินกู้ ฝ่ายทุนหุ้น และเอกสารประวัติของเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด เพื่อนำไปประกอบสำนวนและตรวจสอบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวบ้าง ตั้งแต่การขอกู้เงิน การตรวจสอบเอกสารเงินกู้ การอนุมัติเงินกู้ และการเบิกเงินออกไปจากสหกรณ์ฯ พร้อมกับนำเอกสารทั้งหมด โดยเฉพาะใบมอบฉันทะและใบแสดงตัวตนผู้รับมอบฉันทะส่งไปเปรียบเทียบลายมือกับนางเยาวลักษณ์ ว่ามีการปลอมลายชื่อเบิกเงินจริงหรือไม่ และเปรียบเทียบพิสูจน์ว่าเป็นลายมือของใครที่เขียนในเอกสารแล้วนำไปเบิกเงินเพื่อที่จะเชิญตัวมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครูสาวแฉเงินกู้สหกรณ์1.6ล้าน ล่องหนมือดีถอนเกลี้ยง
หมายเรียก'ครู-ปลัดทต.' คดีลักเงินสหกรณ์ครู1.6ล้าน
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 ม.ค. นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการในส่วนของ จ.กาฬสินธุ์ ขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมี นายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รองผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานการตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริง พร้อมหาแนวทางการช่วยเหลือหลังจากถูกหักค่าหัวคิว และเบิกเงินออกไปใช้จำนวนมาก ทั้งนี้มีการเรียก นางเยาวลักษณ์ เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแล้ว ซึ่งคณะกรรมการจะเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องตามสถานะและพฤติการณ์ว่าใครมีความผิดอะไรและเกี่ยวข้องบ้าง โดยเฉพาะทางคดีอาญาก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ใครเป็นราชการและเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการทางวินัย สำหรับในส่วนของความเสียหาย เนื่องจากว่าเป็นการกู้ยืมเงินแต่คนที่กู้กลับไม่ได้รับเงินผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องมารับผิดชอบทางแพ่ง ซึ่งหากพบว่าผู้ใดมีการกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดอย่างเด็ดขาดทันที
ขณะที่ พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และ พ.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสินธ์ พงส.เจ้าของคดี ได้เดินทางเข้าขอเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการกู้เงินและเอกสารเกี่ยวกับการเบิกเงินของนางสาวเยาวลักษณ์ รวมทั้งเอกสารจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ ฝ่ายการเงิน ผู้อนุมัติเงินกู้ ฝ่ายทุนหุ้น และเอกสารประวัติของเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด เพื่อนำไปประกอบสำนวนและตรวจสอบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวบ้าง ตั้งแต่การขอกู้เงิน การตรวจสอบเอกสารเงินกู้ การอนุมัติเงินกู้ และการเบิกเงินออกไปจากสหกรณ์ฯ พร้อมกับนำเอกสารทั้งหมด โดยเฉพาะใบมอบฉันทะและใบแสดงตัวตนผู้รับมอบฉันทะส่งไปเปรียบเทียบลายมือกับนางเยาวลักษณ์ ว่ามีการปลอมลายชื่อเบิกเงินจริงหรือไม่ และเปรียบเทียบพิสูจน์ว่าเป็นลายมือของใครที่เขียนในเอกสารแล้วนำไปเบิกเงินเพื่อที่จะเชิญตัวมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครูสาวแฉเงินกู้สหกรณ์1.6ล้าน ล่องหนมือดีถอนเกลี้ยง
หมายเรียก'ครู-ปลัดทต.' คดีลักเงินสหกรณ์ครู1.6ล้าน
