ข่าวน้ำยังท่วมใน'ถ้ำหลวง'ทีมสำรวจรอ 1 เดือนเริ่มเก็บกู้ - kachon.com

น้ำยังท่วมใน'ถ้ำหลวง'ทีมสำรวจรอ 1 เดือนเริ่มเก็บกู้
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายกมลไชย คชชา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 พลเรือตรีอาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ หรือหน่วยชีล ได้นำเจ้าหน้าที่และ นายเวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 35 นาย เข้าไปทำการสำรวจภายในถ้ำหลวงตั้งแต่โถงแรกเข้าไปถึงโถงที่ 3 เป็นครั้งแรกเนื่องจากระดับน้ำที่โถงแรกแห้งลง โดยคณะได้มีการรวมพลเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ ก่อนประกอบพิธีบวงสรวงสักการะศาลเจ้าแม่นางนอนบริเวณปากถ้ำก่อนตรวจสอบอุปกรณ์ เป็นครั้งสุดท้ายและทะยอยเดินทางเข้าไปสำรวจตั้งแต่ห้องโถงที่ 1 ตรงปากถ้ำเป็นต้นไป โดยช่วงที่มีปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูรั้วโลหะด้านนอกเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลนอกเข้าไป  นอกจากนี้ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ขอให้ทุกนายที่เข้าไปปฏิบัติการได้พกพาถุงพลาสติกดำเข้าไปด้วยเพื่อเก็บขยะที่เกิดขึ้นภายใน ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ เช่น สายไฟฟ้า ท่ออากาศ ท่อน้ำ ถังอัดอากาศ   ให้คงสภาพเดิมเอาไว้



หลังใช้เวลานานหลายชั่วโมงทีมสำรวจทั้งหมดได้เดินทางกลับออกมาทางปากถ้ำ ซึ่งภาระกิจในการถ่ายภาพและบันทึกข้อมูลอุปกรณ์ที่คงค้างตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงสามแยกภายในถ้ำระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ถือว่าเสร็จสิ้นด้วยดีแต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินหน้าสำรวจต่อจากสามแยก ซึ่งเป็นทางไปทางหาดพัทยา หรือพัทยาบีชรวมจนถึงเนินนมสาวซึ่งเป็นจุดที่เยาวชนทั้ง 13 เคยใช้หลบภัยน้ำท่วมภายในถ้ำได้ เนื่องจากพบว่าบริเวณช่องที่เชื่อมจากสามแยกไปทางเส้นทางซ้ายเต็มไปด้วยตะกอนทรายทำให้ยากต่อการเดินทางผ่านรวมทั้งยังมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งการจะผ่านจุดดังกล่าวไปได้ต้องใช้อุปกรณ์ดำน้ำที่มีความพร้อมเหมือนตอนที่มีปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 หมูป่า ทำให้เจ้าหน้าที่ได้สำรวจถึงบริเวณดังกล่าวแล้วจึงพากันเดินทางกลับรวมแล้วใช้เวลาปฏิบัติการประมาณ 5 ชั่วโมง

นายจงคล้าย กล่าวว่าเนื่องจากไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้และอ๊อกซิเจนภายในถ้ำเบาบางรวมทั้งมีน้ำไหลออกจากหินงอกหินย้อยตามผนังอยู่ตลอดเวลาด้วย จึงได้ตัดสินใจเดินทางกลับ โดยจากการสำรวจพบว่าภายในมีถังอ๊อกซิเจนวางอยู่ตลอดรายทางโดยมีอยู่ที่โถงที่ 3 ประมาณ 100 กว่าถัง โถงที่ 2 ประมาณ 100 ถัง ในโถงทั้ง 2 แห่งยังพบเปลสนามและเชือกที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงเส้นทางถึงกันไปตลอดรายทางโดยพบระหว่างโถงที่ 2-3 มากที่สุดเพราะโถงที่ 2 มีความยาวและภูมิประเทศขรุขระเต็มไปด้วยหน้าผาและซอกหินผาสูงต่ำจำนวนมาก สำหรับเปลสนามและเชือกดังกล่าวได้ใช้สำหรับขนลำเลียงเยาวชนทั้ง 13 คนออกมา นอกจากนี้ในโถงทั้ง 2 แห่งยังพบเครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ และสำหรับโถงที่ 3 นั้นพบสายส่งอ๊อกซิเจนมากที่สุดรวมทั้งพบกระดาษฟรอยด์ที่ใช้ให้ความอบอุ่นร่างกาย พบอาหารพาวเวอร์เจล วิทยุสื่อสาร ของทางทหารที่เจ้าหน้าที่เคยใช้เป็นศูนย์บัญชาการภายในถ้ำสำหรับภาระกิจครั้งนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปตรวจพบวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ และได้บันทึกข้อมูลรวมทั้งถ่ายภาพเอาไว้ตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงสามแยกเอาไว้แล้ว และคาดว่าหากจะเข้าไปจากสามแยกไปยังบริเวณจุดที่พบเยาวชนทั้ง 13 คนคงจะใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือนเพื่อให้น้ำแห้งและเตรียมอุปกรณ์กำลังพลให้มีความพร้อมต่อไป ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ จะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องรอรายงานให้ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้รับทราบเพื่อหารือและดำเนินการต่อไป

ด้านพลเรือตรีอาภากร กล่าวว่า การเข้าไปสำรวจถ้ำหลวงครั้งนี้เป็นเหมือนการรำลึกถึงความหลังเมื่อครั้นปฏิบัติการเดือน มิ.ย.-ก.ค.2561 ที่ผ่านมา โดยสิ่งที่พบเห็นภายในถ้ำทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมกันเข้าไปปฏิบัติการ เพราะมีอุปกรณ์ต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมากซึ่งเมื่อมองย้อนหลังไปก็ยังสงสัยอยู่ว่าพวกเราขนเข้าไปได้อย่างไร อย่างไรก็ตามการเข้าไปในถ้ำครั้งนี้ถือว่าสะดวกกว่าช่วงปฏิบัติการที่มีความยากลำบากกว่ามาก ส่วนการจะเข้าไปให้เลยช่วงสามแยกเข้าไปอีกซึ่งยังคงมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ตกค้างอยู่ภายในคงต้องรอให้ระดับน้ำภายในลดลงกว่านี้