พ่อน้องโยโย่รับไม่เปิดใจฟังลูกเอง ขอฝากเป็นอุทาหรณ์
ข่าวประจำวัน
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 ม.ค. พ่อน้องโยโย่ เปิดเผยว่า นายรณชิต มีลูกสาวที่โตกว่าและเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันกับน้องโยโย่ ซึ่งมีความสนิทสนมกันมากพอสมควรจึงมักเรียกว่าเป็นลุง ทั้งยังเคยไปเที่ยว ไปกินข้าวตามร้านอาหารด้วยกัน ทางครอบครัวจึงเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ โดยผู้ต้องหา มักจะพาน้องโยโย่ไปรับส่งที่โรงเรียนในบางเวลา โดยจะมีแม่น้องเขาติดรถยนต์ไปด้วยเป็นประจำ รวมถึงทุกครั้งที่น้องโยโย่ไปติวหนังสือกับนายรณชิต ซึ่งจะมีการนัดแนะในสถานที่โล่งแจ้งทั้งในร้านกาแฟและห้างสรรสินค้าก็จะมีคุณแม่เดินทางไปด้วยทุกครั้ง
"ก่อนที่เด็กจะหายไปก็ไม่มีวี่แววอะไรเลย ปกติน้องจะเป็นเรียนพิเศษกับนายรณชิต ตามห้างสรรพสินค้าที่ร้านอาหาร ในช่วงใกล้จะสอบ ผมได้เจอกันครั้งล่าสุดหลังจากเข้าไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล จากนั้นเมื่อวันสอบเสร็จก็ไม่พบน้องอีกเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลูกก็เคยบ่นว่าอยากไปเที่ยว ไปดูหนัง ซึ่งปกติจะพาไปตามสถานที่ต่างๆ ทุกวันเสาร์ แต่เนื่องจากเป็นช่วงที่ผมได้ผ่าตัด และตัวแม่ก็ล้มจนเจ็บขา ล่วงเป็นเวลากว่า 2 เดือนที่ไม่ได้พาน้องไปไหน ยอมรับว่าไม่ค่อยเปิดรับฟังปัญหากับน้องมากพอสมควร ส่วนความกดดันเรื่องการเรียนนั้น ผมจะเปิดโอกาสให้ลูกความสมัครใจของตัวเอง จากเรื่องที่เกิดขึ้น ฝากเป็นอุทาหรณ์ว่าอยากให้ทุกครอบครัวเปิดใจรับฟังปัญหาของเด็ก หากมีเรื่องอะไรก็ขอให้รับฟังกันไว้มากๆ" พ่อน้องโยโย่ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง..
- ชี้พฤติการณ์คดี'น้องโยโย่' ติววิชาใกล้ชิดกันจนผูกพัน
- เจอแล้ว"น้องโยโย่" ที่แท้หนุ่มใหญ่ลวงเที่ยวเชียงใหม่