ข่าวเซ่นอีก1ทัวร์ชนแบริเออร์ โชเฟอร์มอบตัวอ้างเบรกไม่อยู่ - kachon.com

เซ่นอีก1ทัวร์ชนแบริเออร์ โชเฟอร์มอบตัวอ้างเบรกไม่อยู่
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
จากกรณีรถทัวร์สองชั้น สีฟ้า-ขาว ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน 10-8175 นครราชสีมา ของบริษัท ประหยัดทัวร์ จำกัด สายกรุงเทพ-พนมไพร หมายเลขข้างรถ 934-2 เสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้าช่องทางด่วน กม.ที่35+100 ตรงข้ามไทวัสดุ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จนมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 5ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 54 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 ม.ค. พ.ต.อ.ฤทธิ์นันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังรถเครนขนาดใหญ่มาทำการยกรถที่ประสบเหตุให้อยู่ในสภาพปกติ โดยพบทรัพย์สินของผู้โดยสารตกค้างอยู่จำนวนหนึ่ง จึงรวบรวมให้พนักงานสอบสวนเพื่อรอส่งคืนญาติ ก่อนจะเคลื่อนย้ายรถไปไว้ที่สถานที่เก็บของกลางของ สภ.คลองหลวง
 
ด้าน นายชเยศ ทรัพย์เทมา ขนส่งชำนาญการปทุมธานี กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ถือว่าเป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในจ.ปทุมธานีซึ่งผ่านเทศกาลปีใหม่มาได้เพียงไม่กี่วัน ส่วนรถทัวร์เกิดเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า สามารถรับผู้โดยสารได้กี่ที่นั่ง เพราะรถแต่ละคนสมรรถนะของรถต่างกัน โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วรถคันเกิดเหตุความเร็วล่าสุดก่อนประสบเหตุอยู่ที่ 85 กม./ชม.แต่ตอนประสบเหตุอยู่ที่ 79 กม./ชม.อาจจะเป็นเพราะว่าแตะเบรกซึ่งความเร็วนั้นรู้แน่ชัดแล้ว



ขณะที่ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมเป็นผู้โดยสาร ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ถูกส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ปทุมเวช อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ น.ส.นารีรัตน์ ไขสีดา อายุ 20 ปี และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีกจำนวน 2 ราย โดยรวมมีผู้เสียชีวิต 6 ราย ได้รับบาดเจ็บ 56 ราย

ด้าน นายปรัชญา หวังเลี้ยงกลาง อายุ 24 ปี ผู้ขับขี่รถทัวร์ที่ประสบอุบัติเหตุซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว โดยให้การว่า ขณะขับรถมาใกล้ถึงที่เกิดเหตุได้มองเห็นว่าด้านหน้ามีรถยนต์ซึ่งประสบอุบัติเหตุกันอยู่แล้ว จึงแตะเบรกเพื่อชะลอความเร็ว แต่เกิดลื่นเพราะมีฝนตกถนนเปียก ทำให้รถเสียการควบคุมกระทั่งชนแบริเออร์ริมทางจนพลิกคว่ำ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำเพื่อเตรียมข้อกล่าวหาและดำเนินคดีทางกฏหมายต่อไป.