ข่าวจับซ้ำแล้วซ้ำอีก รวบ "เจี๊ยบกัง" - "หนึ่ง ริมน้ำ" สองหัวเรือใหญ่แก๊งลักรถฝั่งธนฯ ขายส่งลาว - kachon.com

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.น.8 พ.ต.อ.ดุสิต วาลีประโคน รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.ณรรฐพงษ์ มัคเจริญ, พ.ต.ท.อชิรเวชชย์ สุพรรณเภสัช รอง ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ต.ณกฤตชัย สุขนิล สว.สส. กก.สส.บก.น.8 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ร่วมกันจับกุมนายพงศ์ชัยวรา ฉายา “เจี๊ยบ กัง” อายุ 55 ปี และนายขวัญชัย ฉายา “หนึ่ง ริมน้ำ” อายุ 47 ปี สองหัวเรือใหญ่แก๊งลักรถย่านฝั่งธนฯ

พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125ไอ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน 2 คัน ซึ่งตอกหมายเลขตัวรถ และหมายเลขเครื่องใหม่ เครื่องเจียร 1 ชุด หัวตอกหมายเลข 24 ชิ้น ค้อนตอกหมายเลข 1 อัน แผ่นเหล็กรอง ตอกตัวเลข 2 ชิ้น เบ้ากุญแจที่ถูกทำลายจำนวน 9 ชิ้น เบ้ากุญแจเบาะ 4 อัน โทรศัพท์ 2 เครื่อง จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ซอยเพชรเกษม 28 แยก 24 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร

ภายหลังชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.8 ได้สืบสวนตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งธนบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง โดยได้จับกุมในส่วนของลูกมือแก๊งลักรถรายย่อยในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ และได้สืบสวนขยายผลถึงต้นทางหัวเรือใหญ่ของขบวนการลักรถ

จนทราบว่าเป็นนายพงศ์ชัยวรา ฉายา “เจี๊ยบกัง” และนายขวัญชัย ฉายา “หนึ่ง ริมน้ำ” โดยผู้ต้องหาทั้งสองมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ซึ่งนายพงศ์ชัยวรา จะเป็นผู้ทำหน้าที่รับซื้อรถจักรยานยนต์ที่ได้จากการโจรกรรม มาทำการดัดแปลงหมายเลขตัวถัง และเครื่องยนต์ เจียรลบหมายเลขเดิม แล้วตอกเลขใหม่ ให้ตรงกับเอกสารปลอมที่เตรียมไว้

ขณะที่นายขวัญชัย เป็นลูกมือทำหน้าที่ เปลี่ยนเบ้ากุญแจรถจักรยานยนต์ใหม่จากเดิมที่เบ้ากุญแจได้ถูกทำลายจากการถูกโจรกรรม ก่อนส่งขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้านฝั่งชายแดนไทยลาว โดยมีการว่าจ้าง ต่อไปอีกทอดหนึ่งในการนำส่งไปยังบริเวณชายแดน

ต่อมาวันที่ 29 พ.ค.เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ได้สืบสวนติดตามจนทราบว่านายพงศ์ชัยวรา หรือเจี๊ยบ และนายขวัญชัย หรือหนึ่ง ได้นำรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยมาจำนวน 2 คัน เข้าไปเปลี่ยนเบ้ากุญแจ และทำการเจียรทำลายหมายเลขตัวรถแล้วตอกหมายเลขขึ้นใหม่ ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และร่วมกันเดินทางไปทำการปิดล้อมตรวจสอบ

โดยวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณใกล้เคียงจนพบว่า นายพงศ์ชัยวรา หรือเจี๊ยบ และ นายขวัญชัย หรือหนึ่ง อยู่ระหว่างช่วยกันประกอบรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นของกลางในคดี มีพฤติกรรมเป็นพิรุธ ซึ่งรุกรี้รุกรนเมื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถจับสังเกตได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบในทันที พบรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน มีลักษณะถูกเจียรทำลายหมายเลขตัวรถแล้วตอกหมายเลขขึ้นมาใหม่ จึงได้ทำการสอบถามจากนายพงศ์ชัยวรา หรือเจี๊ยบ

ซึ่งนายพงศ์ชัยวรา ให้การรับว่าตนเป็นผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันจากนายบอย ราคาคันละ 23,000 บาท รวมทั้ง 2 คัน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 46,000 บาท โดยที่ตนเป็นผู้เจียรทำลายหมายเลขตัวถังและหมายเลขเครื่องยนต์เดิม และเป็นผู้ตอกหมายเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์พร้อมพ่นสีทับขึ้นมาใหม่

ส่วนเบ้ากุญแจรถจักรยานยนต์นายขวัญชัย หรือหนึ่งฯ ให้การรับว่าตนเป็นผู้ทำหน้าที่เปลี่ยนเบ้ากุญแจใหม่จากของเก่าที่ถูกทำลาย ซึ่งหลังจากนี้จะนำรถดังกล่าวนำส่งไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันทำการจับกุมโดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร” พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ในการควบคุม

ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การยอมรับว่า รถเป็นของโจรกรรม และเคยทำลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะนายขวัญชัย หรือหนึ่ง เคยถูกจับคดีคล้ายกันเมื่อเดือนกันยายนปี 2567 พื้นที่สภ.บางใหญ่ มาแล้ว และอยู่ในระหว่างต่อสู้คดี กับมาโดนจับอีกครั้ง

ในขณะที่ นายพงศ์ชัยวรา หรือเจี๊ยบ ฉายา “เจี๊ยบ กัง” เป็นที่ทราบกันดีในหมู่นักโจรกรรมรถว่า เป็นอันดับต้นๆในขบวนการ และเป็นผู้รับซื้อรถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกโจรกรรมมาในราคาที่ดีที่สุด รับซื้อรถขโมย ปกติรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟขายได้ 15,000 – 16,000 บาท แต่เจี๊ยบ กังให้ 23,000 -24,000 บาท แต่งเครื่อง ทำเบ้ากุญแจ ขายฝั่งลาว โขงเจียม หนองขาย เปลี่ยนเบ้า ครั้งละ 1,000 บาท ขโมย 2 – 3 คัน ต่อวัน เน้นรถไม่มีกุญแจ โดยในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน สน.ภาษีเจริญ เพื่อดำเนินคดีต่อไป