ข่าวจับหัวหน้าแก๊งชาวจีน พร้อมสมุน ยึดเงินสด3ล้าน หลอกโปรโมทภาพถ่าย - kachon.com

วันที่ 22 พ.ค.68 พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ภานุภัท กิตติพันธ์ ผกก.1 บก.ปอท. แถลงจับกุม เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประกอบด้วย นายเทียน (MR.TIAN) อายุ 29 ปี นายลี ( MR.Li) อายุ 44 ปี สัญชาติจีน นายสิทธิบูรณ์ อายุ 34 ปี นายกิตติชัย และ น.ส.สุภาพร (สงวนนามสกุล) ทั้งหมดถูกจับตามหมายศาลอาญา

ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ, สมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน” ได้บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว ต่อเนื่องหน้าบช.ก.แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.

พล.ต.ต.อธิป กล่าวว่า ก่อนหน้านี้รับแจ้งว่า มีกลุ่มคนร้ายโฆษณาในสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อรับซื้อภาพถ่าย โดยให้ผู้เสียหายแอดไลน์พูดคุยอ้างว่าเป็นพนักงานของบริษัทบริการจัดการโฆษณาออนไลน์ ต้องการหาสมาชิกในการประชาสัมพันธ์ หรือโปรโมทภาพถ่ายของสมาชิก มีผลตอบแทน หรือโบนัสในการส่งภาพถ่ายมาร่วมโปรโมทและร่วมลงทุนในการโปรโมทภาพถ่าย

พล.ต.ต.อธิป กล่าวต่อว่า เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าร่วมทำกิจกรรม ครั้งแรก ๆ จะได้รับผลตอบแทนจริง หลังจากนั้นคนร้ายจะพยายามชักชวนให้ผู้เสียหายเข้ากลุ่มไลน์ เพื่อทำภารกิจส่งเสริมการตลาด โดยอ้างว่ามีค่าตอบแทนสูง

โดยในกลุ่มไลน์ดังกล่าวจะมีการแอบอ้างชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจมาเป็นโค้ชลงทุน และจะมีสมาชิกในกลุ่มไลน์ซึ่งเป็นหน้าม้าเข้ามาร่วมด้วย จากนั้นจะให้ผู้เสียหายทำการลงทุนผ่านเว็บไซต์ STI CURRENCY MARKET เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปร่วมลงทุนครบตามจำนวน และต้องการถอนเงินออกจากระบบ คนร้ายจะอ้างว่าผู้เสียหายทำผิดกฏจะต้องโอนเงินเพิ่มเติมเพื่อเป็นการปลคล็อคอีกด้วย

ส่วน พ.ต.อ.ภานุภัท กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากระบบแจ้งความออนไลน์พบว่า มีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวจำนวน 7 ราย ความเสียหาย กว่า 2.4 ล้านบาท นอกจากนี้พบว่ากลุ่มบัญชีม้าที่ใช้ในกลุ่มนี้ ถูกแจ้งความไว้เป็น จำนวน 67 ราย ความเสียหาย กว่า 15 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงเร่งรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด เพื่อเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ร่วมขบวนการในกลุ่มรับผลประโยชน์และฟอกเงินได้ทั้งสิ้น 5 รายดังกล่าว พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินเป็นเงินสดอีก 3 ล้านบาท จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. ดำเนินคดี และสอบสวนขยายผลการดำเนินคดีต่อไป