ข่าวกรมธรณี ยัน รอยเลื่อนสะกาย ขยับ ไม่โดมิโนส่งผลกระทบรอยเลื่อนอื่น อย่าตระหนก - kachon.com

เมื่อวันที่ 24 เม.ย.68 นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเกิดอาฟเตอร์ช็อกหลังเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ศูนย์กลางที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ข้อมูลจากทั้งกรมอุตุนิยมวิทยาและกรมทรัพยากรธรณี ถึงปัจจุบันมีการเกิดอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 500 กว่าครั้งทั้งในพื้นที่เมียนมาและไทย

ซึ่งแนวโน้มของการเกิดอาฟเตอร์ช็อกในเรื่องความรุนแรงและความถี่จะลดลง อย่างไรก็ตาม รอยเลื่อนสะกายและรอยเลื่อนในประเทศไทยมันไม่ใช่โดมิโน ที่จะส่งผลกระทบถึงกันได้ แต่อาจจะเกี่ยวเนื่องกันในเรื่องการเกิดหลุมยุบในพื้นที่ต่างๆ ที่อาจจะกระทบบ้าง แต่ไม่ได้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกไปอีกนานแค่ไหน โดยเฉลี่ยประมาณ 2 ปี ความแรงจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

เมื่อถามว่า การเกิดแผ่นดินไหวบริเวณรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย จ.กระบี่ ในช่วงที่ผ่านมา มีความเกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหวในเมียนมาหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันเพราะว่าเป็นพฤติกรรมการปลดปล่อยพลังงานของแต่ละรอยเลื่อน

“อยากฝากประชาชนว่าไม่ต้องวิตกกังวล เพราะว่าการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ในรอยเลื่อนที่มีพลังขนาดใหญ่ เช่น รอยเลื่อนสะกาย รอยเลื่อนสุมาตรา หรือรอยเลื่อนในแถบประเทศฟิลิปปินส์ ถ้าเกิดครั้งหนึ่งก็จะทิ้งระยะเวลาไปพอสมควร อาจจะ 50-60 ปี หรือบางทีก็ 100 ปี ถึงจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ถ้าเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นครั้งหนึ่ง ก็จะมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอยู่ประมาณ 2 ปี

เพราะว่าการเคลื่อนที่ การปลดปล่อยพลังงานก็จะเคลื่อนไหวในรอยเลื่อนนั้นๆ แต่มันจะลดลงเรื่อยๆ ยืนยันว่าประเทศไทยอยู่ในจุดชัยภูมิที่ตั้งที่ปลอดภัยจากเรื่องพวกนี้สูงมาก การเกิดแผ่นดินไหวในบ้านเรา ก็มีแต่จะเกิดไม่รุนแรง ถึงขนาดส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน ขนาดประมาณ 1-3 ซึ่งก็เกิดขึ้นประจำอยู่แล้ว

ซึ่งอาจจะรับรู้ได้ แต่ไม่ถึงบ้านเรือนโยก หรือทำให้ตึกสั่นไหว แต่จะรับรู้ได้ประมาณรถวิ่งผ่านหน้าบ้านเท่านั้น และเราก็อยู่กันเป็นความเคยชินอยู่แล้ว ไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวลมากจนเกินไป กรมทรัพยากรธรณีขอสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและย้ำว่าบ้านเราอยู่ในพื้นที่ตั้งที่ปลอดภัยที่สุดในภูมิภาคนี้อยู่แล้ว ”นายพิชิต กล่าว

เมื่อถามถึงระบบแจ้งเตือนภัยแผ่นดินไหว นายพิชิต กล่าวว่า ปัจจุบันมีการทดสอบระบบ cell broadcast ของประเทศไทยอยู่ ซึ่งตามที่ได้ทราบข้อมูลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ประมาณเดือน มิ.ย.หรือ ก.ค. นี้