เพจ นร.แฉ! รร.ดัง บีบ นร.-ผู้ปกครอง เซ็นข้อตกลง ที่ลิดรอนสิทธิ์ ก่อนรับเข้าเรียน!
ข่าวประจำวัน
เพจ นร.แฉ! รร.ดัง ย่านลาดพร้าว กดดันกึ่งบังคับ นร.-ผู้ปกครอง เซ็นข้อตกลง ที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ โดยอาจไม่รับเข้า หรือ หากไม่ทำตามจะบังคับลาออก
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.64 เพจจากฝ่ายนักเรียน ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว ได้โพสต์ ภาพเอกสารฉบับหนึ่ง มีหัวข้อว่า หนังสือยินยอมและยืนยัน (MOU) การเข้าเป็นนักเรียน พร้อมระบุข้อความว่า “บังคับนักเรียนทำข้อตกลง ห้ามแสดงออกหรือใช้สื่อออนไลน์สร้างความเสื่อมเสียแก่ครู โรงเรียน และสถาบันทุกกรณี มิเช่นนั้นอาจจะถูกบังคับให้ลาออก และหากไม่ยอมเซ็นจะไม่สามารถรับเข้าศึกษาได้”
โดยเนื้อหาของหนังสือยินยอมและยืนยันการเข้าเป็นนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าว มีข้อตกลง ดังนี้ “ข้าพเจ้าขอแจ้งความประสงค์และขอยืนยันการเข้าเรียนที่โรงเรียน โดยข้าพเจ้าและผู้ปกครองได้รับทราบ ยินดีและยินยอมลงลายมือชื่อในข้อตกลง (MOU) ของโรงเรียน พร้อมยินดีปฏิบัติ ดังนี้
ข้าพเจ้ายินยอมและยืนยันลงลายมือชื่อ รับทราบพร้อมปฏิบัติตามข้อตกลง (MOU) ของโรงเรียนทุกประการ (ด้วยความสมัครใจ)” ข้าพเจ้ายืนยันจะประพฤติตนตามข้อกำหนด ตามระเบียบปฏิบัติของโรงเรียนทุกประการ โดยไม่มีข้อแม้หรือเงื่อนไข ใด ๆ ทั้งสิ้น
ข้าพเจ้ายินดีประพฤติปฏิบัติตนตามคู่มือคนดีของโรงเรียนทุกประการ โดยไม่มีข้อแม้หรือเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น ข้าพเจ้ายืนยันไม่เข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ที่แสดงออกทางสัญลักษณ์ หรือใช้สื่อต่าง ๆ ให้เสื่อมเสียต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ สถานศึกษา
ข้าพเจ้ายืนยันไม่เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียหรือสร้างความเสียกายทั้งด้านชื่อเสียงโรงเรียน และ/หรือ ร่วมทำกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อโรงเรียน หรือ ข้าราชการครู และ บุคลากรทุกคนในโรงเรียน ทุกกรณี ข้าพเจ้ายินดีและยินยอมประพฤติตนตามระเบียบ ข้อกำหนดหรือข้อตกลงตามที่โรงเรียนกำหนดได้
ข้าพเจ้าและผู้ปกครองยินดี ยินยอม และยืนยันให้โรงเรียนพิจารณาโทษตามระเบียบการลงโทษทุกประการ และ/หรือ ข้าพเจ้ายินดีและยินยอมลาออกจากโรงเรียนโดยไม่มีข้อแม้และไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น”
จากการเผยแพร่เอกสารดังกล่าว ทำให้มีศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน รวมถึงประชาชนจำนวนมาก เข้ามาแสดงความเห็นในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการริดลอนสิทธิเสรีภาพ เช่น เป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญของประเทศไทย และ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก รวมถึง พระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมพ.ศ.2540
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เพียงไม่นาน โรงเรียนดังกล่าวเพิ่งเกิดกรณีที่ครูคนหนึ่ง โพสต์ข้อความคุกคามทางเพศและต่อว่านักเรียนในเชิงเหยียดหยามหยาบคาย ทำให้มีศิษย์เก่าจำนวนมากกังวลว่า การใช้อำนาจอย่างไม่มีขอบเขตของโรงเรียน ประกอบกับ เรื่องเสื่อมเสียในโรงเรียนที่เพิ่งเกิดขึ้น จะมีผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ของนักเรียน และ ชื่อเสียงของโรงเรียน