อ.เจษฯลั่นไม่จริง! สูตร'ยาผีบอก'รักษาอัมพฤกษ์หายขาด
ข่าวประจำวัน

วันนี้ (10 พ.ค.) เฟจเฟซบุ๊ก "อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์" ได้โพสต์ข้อความว่า มาอีกแล้วครับ สูตรยาผีบอกรักษาโรค คราวนี้อ้างว่า "รักษาโรคอัมพฤกษ์ให้หายขาดได้" แชร์กันไปเป็นหมื่นแล้ว .. ไม่จริงนะครับ !! โรคอัมพฤกษ์อัมพาต เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องการการดูแล ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ดีกว่า
โรคอัมพฤกษ์อัมพาต หรือจริงๆ ก็คือ โรคหลอดเลือดสมอง นั้น เป็นอีกโรคหนึ่งที่มีความสำคัญและอันตรายมาก ในประเทศไทย พบว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการตายหรือพิการสูงเป็นอันดับ 3 ในเพศชาย (รองจากโรคเอดส์และอุบัติเหตุ) และสูงเป็นอันดับ 2 ในเพศหญิง (รองจากโรคเอดส์)
อัมพฤกษ์อัมพาตหรือโรคหลอดเลือดสมอง แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. สมองขาดเลือด เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมอง เกิดการตีบหรืออุดตัน
2. หลอดเลือดสมองแตก ก้อนเลือดจะเบียดดันเนื้อสมองส่วนที่ดีทำให้เสียหน้าที่เซลล์สมองทำงานผิดปกติ
หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
1.มีอาการชาหรืออ่อนแรงของแขนขา หรือใบหน้าข้างใดข้างหนึ่ง
2. ตาข้างใดข้างหนึ่งมัวหรือมองไม่เห็น
3. พูดลำบาก พูดไม่ได้ หรือไม่เข้าใจคำพูด
4. มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
5. มีอาการมึนงง หรือเดินไม่มั่นคง เสียศูนย์
สำหรับการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง ที่เกิดจากการตีบหรืออุดตันของหลอดเลือดในระยะเฉียบพลันที่มีการศึกษายืนยันแล้วว่าได้ผลดีชัดเจน ได้แก่
1. การให้ยาสลายลิ่มเลือด (Tissue plasminogen activator, tPA) ทางหลอดเลือดดำแก่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันภายในเวลา 3 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ
2. การให้รับประทานยาแอสไพรินอย่างน้อย 160 mg ต่อวันภายใน 48 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ
3. การรับตัวผู้ป่วยไว้ในหอผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน (acute stroke unit)
4. การผ่าตัดเปิดกะโหลก (Hemicraniectomy) จะพิจารณาทำเฉพาะกรณีที่มีอาการรุนแรงและมีการตีบหรืออุดตันของหลอดเลือดแดงใหญ่ Middle cerebral atery ในสมองเท่านั้น
เรื่องการดูแล มีความสำคัญมากในการป้องกันไม่ให้เกิดอัมพฤกษ์อัมพาต โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้
1. การรักษาและควบคุมปัจจัยเสี่ยง ได้แก่การรักษาเบาหวาน ความดันโลหิตสูง การงดสูบบุหรี่
2. การป้องกันการกลับเป็นซ้ำด้วยการใช้ยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
3. การลดอาหารไขมัน โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว อาหารเค็ม กินผักและผลไม้ให้มาก
4. จำกัดการดื่มสุรา เบียร์
5. รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
6. ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ
ข้อมูลจาก https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp…